เกิดอุบัติเหตุสลด ทหารอียิปต์เข้าใจผิดอย่างหนัก กราดยิงใส่รถยนต์โฟร์วีล นักท่องเที่ยว 4 คัน ขณะเข้ามาท่องเที่ยวในเขตทะเลทรายตะวันตก ตายอนาถถึง 12 คน มีนักท่องเที่ยวเม็กซิโกเสียชีวิต-บาดเจ็บหลายคน กระทรวงมหาดไทยอียิปต์ออกแถลงการณ์ชี้แจง เหตุการณ์สะเทือนใจเกิดขึ้นขณะทหาร-ตำรวจกำลังไล่ล่ากลุ่มก่อการร้ายในบริเวณนี้อยู่พอดี
เมื่อวันที่ 14 ก.ย.58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเกิดอุบัติเหตุสุดสะเทือนใจ ทหาร-ตำรวจอียิปต์ เกิดความเข้าใจผิดอย่างมาก ในระหว่างปฏิบัติการไล่ล่ากลุ่มก่อการร้าย สาดกระสุนยิงใส่รถยนต์ จนทำให้มีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตอนาถถึง 12 คน รวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวเม็กซิโกและชาวอียิปต์ เพราะคิดว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย เนื่องจากรถยนต์แบบโฟร์วีล 4 คัน ของนักท่องเที่ยวเหล่านี้ได้แล่นเข้ามาในเขตพื้นที่ควบคุม บริเวณทะเลทรายตะวันตก (Western Desert) และโอเอซิส บาฮาริยา ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงไคโร เมืองหลวง
กระทรวงมหาดไทยของอียิปต์แถลงหลังเกิดเหตุว่า ทางการอียิปต์ได้ตั้งทีมเจ้าหน้าที่ขึ้นมาสอบสวนเหตุการณ์สลดครั้งนี้แล้ว ขณะที่ ประธานาธิบดีเอ็นริเก เปญา นิเอโต แห่งเม็กซิโก ออกมากล่าวประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลอียิปต์ดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์สลดนี้อย่างสุดความสามารถ เพราะนอกจากจะเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 12 รายแล้ว ยังมีนักท่องเที่ยวชาวเม็กซิโกและชาวอียิปต์ได้รับบาดเจ็บอีก 10 คน ด้วย โดยกระทรวงการต่างประเทศเม็กซิโก ยืนยันว่า เบื้องต้น มีนักท่องเที่ยวชาวเม็กซิโกเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 2 ราย และเจ้าหน้าที่กำลังยืนยันระบุสัญชาติผู้เสียชีวิตรายอื่นๆ
รถโฟร์วีลของนักท่องเที่ยว 4 คันที่ถูกทหารอียิปต์ยิง จนมีผู้เสียชีวิต 12 ศพ
ทั้งนี้ แถลงการณ์จากกระทรวงมหาดไทยอียิปต์ ระบุว่า มีรถยนต์ของนักท่องเที่ยว 4 คันแล่นเข้ามาในพื้นที่ที่ทหารและตำรวจกำลังร่วมกันปฏิบัติการไล่ล่ากลุ่มก่อการร้ายที่นั่งรถยนต์ 4 คัน หลบหนีมายังเขตทะเลทราย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้ามา อีกทั้ง โฆษกกระทรวงการท่องเที่ยวของอียิปต์ยังชี้แจงว่าบริษัททัวร์ที่พานักท่องเที่ยวเข้ามาในบริเวณดังกล่าว ไม่ได้รับอนุญาตและไม่ได้แจ้งเรื่องนี้ต่อทางการ
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวในพื้นที่ อ้างคำเปิดเผยของโชเฟอร์ของรถคันหนึ่งที่ถูกเจ้าหน้าที่ยิง ในจำนวน 4 คัน ว่า บริษัททัวร์ได้มีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งยังมีตำรวจคนหนึ่งคอยให้ความคุ้มกันด้วย โดยบริเวณทะเลทรายตะวันตก ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมมาเที่ยว แต่ขณะเดียวกันก็เป็นพื้นที่ที่กลุ่มติดอาวุธเข้ามาเคลื่อนไหวอยู่เช่นกัน
Credit : http://www.thairath.co.th/