การปรากฏตัวของ พลโทฮุน มาเนต ลูกชายคนโตของ สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีแห่งกัมพูชา ร่วมคณะนายทหารระดับสูง นำโดย พลเอกเตีย บัน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม เดินทางมาเยือนผู้นำกองทัพไทย เพื่อกระชับความสัมพันธ์ เมื่อวันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา ทำให้ถูกตั้งข้อสังเกตว่า เบื้องหน้า…นอกจากการทอดไมตรีของนายกฯ ฮุน เซน กับว่าที่รัฐบาลใหม่ของไทยแล้ว เบื้องลึก ผู้นำกัมพูชา พยายามผลักดันให้หนึ่งในทายาท ที่จะสืบทอดอำนาจของตระกูลฮุน เซน มีบทบาทสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือไม่
ปี 2558 การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกัมพูชาของฮุน เซน วัย 63 ปี ก็จะครบ 30 ปี พอดี ถึงแม้เวลาจะผ่านมาถึง 3 ทศวรรษแล้ว แต่เขายังไม่มีท่าที จะยอมลงจากตำแหน่งง่ายๆ มิหนำซ้ำ ยังประกาศกร้าว เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาว่า จะมีอายุยืนยาวถึง 93 ปี หรืออีก 30 ปี นับจากนี้
ฮุน เซน คงตระหนักดี ถึงความไม่แน่นอน จึงวางหมากให้ “วงศ์ตระกูล” ของเขา ครองอำนาจทางการเมืองในกัมพูชาให้ยาวนานที่สุด แม้ว่าเขาจะล่วงลับไปแล้ว ซึ่งแต่ละหมาก ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นบรรดาลูกๆ ทั้ง 5 คนของเขานั่นเอง
ในการครองประเทศให้ได้ สิ่งสำคัญอันดับแรก คือ “อำนาจทางการทหาร” ฮุน เซน ได้ส่งลูกชายทั้ง 3 คน ไปเรียนด้านการทหารในต่างประเทศทั้งหมด
พลโทฮุน มาเนต ลูกชายคนโต เป็นชาวกัมพูชาคนแรก ที่มีโอกาสไปศึกษาที่โรงเรียนนายร้อยเวสต์พอยต์ ในสหรัฐอเมริกา ด้วยวัยเพียง 36 ปี แต่มีตำแหน่งเป็นถึง รองผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายสากล กระทรวงกลาโหมกัมพูชา และยังคุมกำลังติดอาวุธ ในกองพลรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรีกัมพูชาถึง 5,000 นาย ที่สามารถป้องกันการรัฐประหารนายกฯ ฮุน เซน ที่อยู่ในอำนาจมาตั้งแต่ปี 2528 ได้
ส่วน พลจัตวาฮุน มานิต ลูกชายคนที่ 2 วัย 33 ปี ปัจจุบันเป็นถึง “รองหัวหน้าหน่วยข่าวกรอง” ที่ทรงอิทธิพลแห่งกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ขณะเดียวกัน เขาได้แต่งงานกับ ฮอกจันดาวี ลูกสาวของ พลเอกฮอก ลุนดี อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือ “จอมพลเผ่าเขมร” ก็ยิ่งเสริมอิทธิพลของตระกูลฮุน เซน ให้แผ่ขยายไปยังกองกำลังตำรวจของประเทศด้วย
และยิ่งตอกย้ำอิทธิพลเหนือเหล่าตำรวจมากขึ้น เมื่อลูกสาวคนที่ 3 อย่าง ฮุน มานา ได้แต่งงานกับลูกชายอีกคนของพลเอกฮอก ลุนดี จึงกลายเป็นความสัมพันธ์ 2 ชั้น ที่ยิ่งแน่นแฟ้น จนยากจะทำให้ขาดได้ง่ายๆ
เมื่อพูดถึง ฮุน มานา ลูกสาวคนถัดมา เธอถูกวางตัว ให้ทรงอิทธิพลในแวดวงสื่อสารมวลชน ปัจจุบันเธอเป็น ประธานบริษัท บายนทีวี เจ้าของสถานีโทรทัศน์ 2 ช่อง ช่องบันเทิงและช่องข่าว ที่มีเรตติ้งอันดับต้นๆ ของประเทศ ที่สำคัญคือคอยเป็นกระบอกเสียงให้พรรคซีพีพีของบิดา
สำหรับ “ด้านธุรกิจ” ก็ไม่ธรรมดา ตระกูลฮุน เซนและเพื่อนสนิทชิดใกล้ ทั้งในและต่างประเทศ ต่างก็ครอบครองธุรกิจเกือบทั้งหมดของกัมพูชาทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ดังนั้น ในแวดวงธุรกิจ จึงไม่เป็นปัญหาให้ฮุน เซนต้องเป็นห่วง
ทว่า สิ่งสำคัญที่จะทำให้การครองอำนาจสมบูรณ์แบบ คือ “การเมือง” การวางหมากบนเส้นทางการเมืองของฮุน เซน เป็นที่รู้กันดีในกัมพูชาว่า เขาได้วางตัว ฮุน มานี ลูกชายคนสุดท้อง วัย 32 ปี เอาไว้แล้ว
แม้ว่า ฮุน มานี จะเรียนจบด้านการทหาร แต่เขาไม่รับราชการในกองทัพ กลับเริ่มต้นด้วยการเข้ามาเป็น “หัวหน้าขบวนการเยาวชนกัมพูชา” เมื่อ 2 ปีก่อน องค์กรนี้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล มีหน้าที่ให้ทุนการศึกษาและทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคนรุ่นใหม่ทุกประเภท โดยเฉพาะการจัดเทศกาลสงกรานต์ที่นครวัด ทำให้ ฮุน มานี ได้เสียงสนับสนุนจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ไม่น้อย
ปีที่แล้ว ฮุน มานี ได้ขยับตัวเองเข้าใกล้ “วง” การเมืองมากยิ่งขึ้น เมื่อเขาได้รับเลือกให้เป็น ส.ส.จังหวัดกัมปงสะปือ และยังเป็น ส.ส.ที่อายุน้อยที่สุด ในประวัติศาสตร์ของประเทศ ปัจจุบันเขายังนั่งรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรีด้วย
ด้วยความดีความชอบทั้งหลายที่ได้ทำมา บวกกับเชื่อฟังคำสั่งพ่อทุกอย่าง กระแสในกัมพูชา จึงคาดหมายกันว่า ฮุน มานี คือ “ทายาทการเมือง” ตัวจริง ที่ ฮุน เซน วางตัวลูกชายคนนี้เอาไว้
สถานการณ์ของตระกูลฮุน เซน ในเวลานี้ หากวัดจากการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อปีที่แล้ว พรรคซีพีพี ของฮุน เซน ได้รับเสียงสนับสนุนลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในจังหวัดใหญ่ๆ และเมืองหลวงอย่างกรุงพนมเปญ ที่ปรากฏว่า พรรคฝ่ายค้านอย่างซีเอ็นอาร์พี ของนายสม รังสี คว้าที่นั่ง ส.ส.ส่วนใหญ่ไปได้
ดังนั้น การเลือกตั้งคราวหน้า (ซึ่งจัดขึ้นทุก 5 ปี) หากพรรคของฮุน เซน เป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำให้พรรคซีเอ็นอาร์พี โอกาสที่ทหารจะออกมาก่อรัฐประหารรัฐบาลฝ่ายตรงข้าม ก็คงไม่ใช่เรื่องเกินคาดเดา ในเมื่อเกือบทุกองคาพยพของกัมพูชา ตกอยู่ในอำนาจ “ทายาทตระกูลฮุน เซน” แล้ว
ลูกทั้ง 7 ของ “ฮุน เซน-บุน รานี”
เมื่อล้วงลึกเข้าไปดูถึงครอบครัวผู้นำสูงสุดของการเมืองกัมพูชา นายกฯ ฮุน เซน และ นางบุน รานี มีลูก 5 คน แต่ความจริงแล้ว ลูกๆ ของฮุน เซน มีถึง 7 คน
คนนอกอาจเข้าใจว่า พลโทฮุน มาเนต เป็นลูกคนแรก ของทั้งคู่ แต่ ฮุน กอมซอต คือ ลูกชายคนแรกของตระกูลตัวจริง ฮุน กอมซอต เกิดปี 2520 แต่หลังจากคลอดได้ไม่นาน เสียชีวิตลง ซึ่งชื่อ กอมซอต ที่ใช้เรียกตามภาษากัมพูชา แปลว่า สิ่งที่น่าเศร้า และครอบครัวก็ได้จัดงานรำลึกถึงลูกคนแรกคนนี้ทุกปี
อีก 1 ปีถัดมา ฮุน มาเนต ลูกชายคนโต ที่ยังมีชีวิตอยู่ ได้ลืมตาขึ้นมาดูโลก คาดกันว่าเขาคือผู้นำกัมพูชาคนต่อไป แต่ด้วยบุคลิกส่วนตัวที่ไม่เชื่อฟังผู้เป็นพ่อมากนัก จึงเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันว่า เขาอาจไม่ใช่ลูกของฮุน เซน จริงๆ และถึงตอนนี้ เขาอาจไม่ใช่ทายาทการเมืองอันดับ 1 อีกต่อไป
ฮุน มานา อายุ 34 ปี ลูกสาวคนที่สาม แม้จะเป็นถึงประธานบริษัท บายนทีวี แต่เธอก็ยังมีเรื่องอื้อฉาว เกี่ยวกับคดีตัดไม้ทำลายป่า ที่ถูกรายงานโดยองค์กรสากลอย่าง โกลบอล วิทเนส ขณะที่ชีวิตส่วนตัว ฮุน มานา แต่งงานกับลูกชายคนโตของ พลเอกฮอก ลุนดี อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ลูกชายคนต่อมาของ ฮุน เซน คือ พลจัตวาฮุน มานิต วัย 33 ปี จบการศึกษาด้านการทหาร ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าหน่วยข่าวกรอง กระทรวงกลาโหมกัมพูชา ด้านชีวิตส่วนตัว แต่งงานกับลูกสาวของพลเอกฮอก ลุนดี หรือน้องสาวของสามี ฮุน มานา นั่นเอง
ฮุน มานี คือ ทายาทคนที่ 5 ของตระกูลฮุน เซน เขาเป็นลูกชายคนสุดท้องของครอบครัว จบจากโรงเรียนนายร้อยทหารเช่นเดียวกับพี่ชายทั้งสองคน เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา การเข้ามาเป็นหัวหน้าขบวนการเยาวชนกัมพูชา ทำให้เขาเข้าถึงคนรุ่นใหม่ และซื้อใจให้สนับสนุนพรรคการเมืองของผู้เป็นพ่อได้ไม่น้อย สมกับเป็นทายาทตัวจริงที่ผู้เป็นพ่อวางตัวเอาไว้
ลูกสาวคนสุดท้องของตระกูลฮุน เซน ที่เป็นลูกแท้ๆ อีกคน คือ ฮุน มาลี แต่เธอไม่สนใจงานการเมือง และไม่ปรากฏบทบาทใดๆ ในสื่อมากนัก ข้อมูลที่สาธารณชนได้รู้คือเธอมีอายุ 31 ปี
ทว่า คนที่สร้างเรื่องกระฉ่อนไปทั่วประเทศ กลับไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่เป็นลูกบุญธรรม อย่าง ฮุน มาลิส วัย 30 ปี ที่ถูกตัดออกจากวงศ์ตระกูลไปเมื่อ 7 ปีที่แล้ว แม้ว่าในตอนแรก ฮุน เซน จะรักเหมือนลูกแท้ๆ จนถึงกับให้ใช้นามสกุลเดียวกัน แต่เพราะรสนิยมส่วนตัว ที่ชอบเพศเดียวกัน ทำให้ผู้เป็นพ่อประกาศต่อหน้าคน 3,000 คนว่า มีลูกสาวเป็น “เลสเบี้ยน” และนับแต่นั้นมา ก็ไม่มีใครได้พบเห็นหน้าของเธออีกเลย
ทุกวันนี้ แม้นักการเมืองจะพยายามแยก “งาน” และ “ส่วนตัว” ให้เป็นคนละเรื่องกัน แต่สำหรับผู้นำกัมพูชาอย่าง ฮุน เซน แล้ว การเมืองกับเรื่องครอบครัว แยกกันไม่ออกจริงๆ
Credit : http://www.komchadluek.net/