สถานการณ์การรบในประเทศเยเมน ภูมิภาคตะวันออกยังคงเป็นไปอย่างดุเดือด นับตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค. ต้นปี ที่กลุ่มกบฏหัวรุนแรงฮูธิได้เข้ายึดอำนาจรัฐบาล จนส่งผลให้กองกำลังผสมอาหรับนำโดยกองทัพซาอุดีอาระเบีย ตัดสินใจเข้าแทรกแซงด้วยการทิ้งระเบิดโจมตีที่มั่นของกลุ่มกบฏต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 26 ก.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าว่า กองกำลังผสมอาหรับได้ตัดสินใจที่จะระงับการโจมตีเป็นเวลา 5 วัน เพื่อเปิดช่องให้มีการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
ทั้งนี้ คำสั่งระงับการโจมตีดังกล่าวมีขึ้น หลังจากกองกำลังผสมอาหรับได้ทิ้งระเบิดโจมตีทางอากาศหลายระลอกในพื้นที่เมืองมอคา ทางภาคตะวันออกของเยเมน แต่กลับทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 120 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการรบ โดยองค์กรอิสระ กลุ่มช่วยเหลือด้านมนุษยชน ไปจนถึงพยานในที่เกิดเหตุเปิดเผยว่า การโจมตีทางอากาศครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ก.ค. ถูกบ้านพักคนงานโรงไฟฟ้าเมืองมอคา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก สภาพที่เกิดเหตุเต็มไปด้วยความสยดสยอง ผู้หญิง เด็ก และคนชรา ไม่ถูกแรงระเบิดร่างขาดเป็นชิ้นๆ ก็ถูกเปลวเพลิงคลอกเกรียมเป็นตอตะโก
ด้านทางการซาอุดีอาระเบียปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อการโจมตี ขณะที่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงเยเมนผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ระบุว่า กองกำลังผสมอาหรับอาจจะได้รับข้อมูลที่ผิดพลาด เพราะฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏฮูธิ อยู่ห่างจากจุดโจมตีไปประมาณ 5 กิโลเมตร
ส่วนนายฮัสซาน บูเซไนน์ จากกลุ่มแพทย์ไร้พรมแดน ระบุว่า ระยะหลังการโจมตีของกองกำลังผสมอาหรับไม่ได้เลือกเฉพาะเป้าหมายทางทหารอีกต่อไป แต่กลับโจมตีทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือนอยู่อาศัย หรือตลาดสด เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ที่องค์การแอมเนสตี อินเตอร์เนชั่นแนล แสดงความกังวลว่า กองกำลังผสมอาหรับไม่พยายามที่ จะจำกัดวงการโจมตี ส่งผลให้พลเรือนได้รับเคราะห์
วันเดียวกัน นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กล่าวสุนทรพจน์ปิดฉากการเยือน ประเทศเคนยาในแอฟริกาอย่างเป็นทางการว่าเคนยาตอนนี้มาถูกทางแล้ว แต่ก็ถือว่าอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ด้วยอุปสรรคนานัปการไม่ว่าคอร์รัปชัน ก่อการร้าย และความขัดแย้งด้านชาติพันธุ์ อนึ่ง นายโอบามานับเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯคนแรกที่มาเยือนเคนยาระหว่างดำรงตำแหน่ง.
Credit : http://www.thairath.co.th/