ทางการของกรุงซานติอาโก เมืองหลวงของประเทศชิลี ประกาศใช้มาตรการฉุกเฉิน หลังจากระดับมลภาวะเพิ่งสูงขึ้นสู่ขั้นวิกฤติเมื่อวันจันทร์…
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ในวันที่ 22 มิ.ย. ทางการของกรุงซานติอาโก เมืองหลวงของประเทศชิลี ประกาศใช้มาตรการฉุกเฉิน ภายหลังระดับมลภาวะในอากาศพุ่งขึ้นสู่ขั้น ‘วิกฤติ’ อันเป็นผลจากความแห้งแล้ง ขาดแคลนน้ำฝน กอปรกับทำเลที่ตั้งของเมืองหลวงแห่งนี้อยู่ในหุบเขา เมื่อไม่มีฝนและลมจะทำให้ฝุ่นควันอยู่ภายในเมืองแห่งนี้เป็นเวลาหลายวัน
ทางการเรียกร้องให้ชาวกรุงซานติอาโกแสดง จิตวิญญาณของพลเรือนและความเป็นหนึ่งเดียวกัน ด้วยการลดระดับมลภาวะให้อยู่ในระดับต่ำสุด โดยภายใต้มาตรการฉกเฉินนี้ 40% ของรถยนต์ที่ติดตั้งเครื่องฟอกไอเสีย และ 80% ของรถยนต์ที่ไม่ได้ติดตั้งเครื่องฟอกไอเสีย จะถูกห้ามไม่ให้ออกมาวิ่งบนท้องถนนตั้งแต่เวลา 7:30น. จนถึงเวลา 23:00น. ของวันจันทร์ และโรงงานประมาณ 700 แห่งก็ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติการชั่วคราวด้วยเช่นกัน
มลภาวะปกคลุมกรุงซานติอาโก (ภาพ: AFP)
ทั้งนี้ มาตรการฉุกเฉินจะถูกบังคับใช้เป็นเวลา 24 ชั่วโมง แต่เจ้าหน้าที่อาจตัดสินใจขยายเวลาออกไปอีก หากมีความจำเป็น
ส่วนการแข่งขันฟุตบอล ‘โคปาอเมริกา’ ซึ่งชิลีเป็นเจ้าภาพ ในเบื้องยังไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากไม่มีโปรแกรมแข่งขันในวันจันทร์ แต่ไม่แน่ชัดว่าปัญหามลภาวะจะส่งผลต่อการแข่งขันรอบก่อนรองชนะเลิศนัดแรกคู่ระหว่าง ทีมชาติชิลี และทีมชาติอุรุกวัย ในวันพุธที่ 24 มิ.ย. (ตามเวลาท้องถิ่น) หรือไม่
Credit : http://www.thairath.co.th/