(ภาพ: AP)
ทางการจีนส่งทีมผู้เชี่ยวชาญทางเคมีและนิวเคลียร์ของกองทัพ เข้าสู่ที่เกิดเหตุโกดังเก็บวัตถุเคมีและสารอันตรายระเบิด เพื่อตรวจสอบสารพิษที่อาจรั่วไหลจากโกดังแห่งนี้…
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการจีนส่งทีมผู้เชี่ยวชาญทางเคมีและนิวเคลียร์ของกองทัพกว่า 200 นาย เข้าสู่ที่เกิดเหตุโกดังเก็บวัตถุเคมีและสารอันตรายระเบิด บริเวณย่านท่าเรือของเทศบาลนคร เทียนจิน แล้วในวันพฤหัสบดี (13 ส.ค.) หลัง 1 วันก่อนหน้านั้น เกิดระเบิดครั้ง 2 ครั้งทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 50 ราย มีผู้บาดเจ็บราว 700 คน สิ่งปลูกสร้าง, ตู้คอนเทนเนอร์และรถยนต์อีกจำนวนมากถูกทำลาย แต่รัฐบาลยังหาสาเหตุของการระเบิดไม่ได้ ท่ามกลางเสียงกดดันจากสังคม
รถยนต์ซึ่งเพิ่งผลิตใหม่และโรงงานได้รับความเสียหายอย่างหนัก (ภาพ: AP)
ผู้เชี่ยวชาญจากกองทัพจำนวน 217 นายถูกส่งเข้าไปตรวจสอบแก๊สพิษในที่เกิดเหตุ โดยทีมกู้ภัยในรับคำสั่งให้สวมชุดป้องกันเนื่องจากยังคงมีความเสี่ยงที่จะเกิดสารเคมีรั่วไหลเนื่องจากการระเบิด ขณะที่นาย เหวิน วูรุย หัวหน้าสำนักงานป้องกันสิ่งแวดล้อมเมืองเทียนจิน พวกเขากำลังตรวจวัดค่ามลพิษในอากาศ ซึ่งอาจเป็นอันตรายหากหายใจเข้าไปเป็นเวลานาน แต่ ณ ตอนนี้ ค่ามลพิษไม่ได้สูงเกิดค่ามาตรฐานมากนัก
ทั้งนี้ เหตุระเบิดทั้ง 2 ครั้งเกิดขึ้นที่โกดังแห่งหนึ่ง ซึ่งเก็บวัตถุเคมีและสารอันตราย ในนิคมอุตสาหกรรมบริเวณย่านท่าเรือของเมืองเทียนจิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตรถยนต์, โรงงานประกอบเครื่องบิน, โรงกลั่นน้ำมัน และอื่นๆ โดยเหตุระเบิดครั้งแรกเกิดขึ้นตอนเวลาประมาณ 23.30 น. ของคืนวันที่ 12 ส.ค. และต่อมา ได้เกิดระเบิดครั้งที่ 2 ซึ่งความรุนแรงของระเบิดทำให้หน้าต้องของตึกและบ้านเรือนในรัศมี 3 กม. ได้รับความเสียหาย
ซากที่เหลือของตู้คอนเทนเนอร์หลังเกิดการระเบิดรุนแรงที่โกดังเก็บสารเคมี (ภาพ: AP)
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 1,000 นาย และรถดับเพลิงอีก 143 คันถูกส่งไปยังที่เกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้บางส่วนในช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี ขณะที่มีรายงานจากสำนักข่าวซินหัวว่า ในกลุ่มผู้เสียชีวิตทั้ง 50 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงถึง 12 นาย ขณะที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 701 คนถูกส่งเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ในจำนวนนี้เป็นผู้ได้รับบาดเจบสาหัส 71 คน
Credit : http://www.thairath.co.th/
