รวมนาฬิกาข้อมือไฮเทคตัวเจ๋ง ๆ ฟังก์ชั่นครบครันในงาน IFA 2015 ที่คนรักสมาร์ทวอทช์เห็นแล้วปิ๊งเลย
เชื่อว่าหลายคนที่ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เป็นประจำละก็ น่าจะรู้จักงาน IFA 2015 ที่จัดขึ้น ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ระหว่างวันที่ 2-8 กันยายน 2015 กันมาบ้างไม่มากก็น้อย เพราะนอกจากจะเป็นงานที่เปิดตัวสินค้าใหม่ ๆ ของทางผู้ผลิตชื่อดังต่าง ๆ แล้ว ภายในงานยังมีไฮไลท์สำคัญอยู่ที่บรรดาสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ ๆ อีกด้วย ดังนั้นเราเลยคัดเฉพาะสมาร์ทวอทช์ที่น่าสนใจมาให้ได้ชมกันทั้งหมด 7 รุ่นซะเลยครับ
Samsung Gear S2
ทางด้านซัมซุงส่งสมาร์ทวอทช์ออกมาพร้อมกันทีเดียวถึง 2 แบบ 2 สไตล์ ได้แก่ Gear S2 และ Gear S2 classic ซึ่งในส่วนของระบบการทำงานและฟีเจอร์ในตัวนาฬิกานั้นเหมือนกัน แต่ต่างกันตรงดีไซน์ที่มีความโดดเด่นกันคนละแบบ โดยมาพร้อมกับหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 1.2 นิ้ว ความละเอียด 360×360 พิกเซล, ซีพียู Dual core 1.0GHz, แรม 512MB, ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Tizen, มีหน่วยความจำในตัว 4GB
Moto 360 Sport
หลังจากปีที่แล้วได้เปิดตัวสมาร์ทวอทช์รุ่นแรกไปแล้วกับ Moto 360 ล่าสุดภายในงาน IFA 2015 ทางโมโตโรล่ายังเปิดตัว New Moto 360 และที่เด็ดกว่าคือ Moto 360 Sport รุ่นนี้ ที่เตรียมผลิตออกมาเพื่อเอาใจคนรักการออกกำลังโดยเฉพาะ
จุดเด่นหลัก ๆ ของ Moto 360 Sport นอกเหนือจากดีไซน์ที่ดูไฮเทคกับหน้าจอแบบไฮบริดสกรีนแล้ว ตัวเรือนยังมีความทนทานไม่เบาเลยล่ะ เพราะทำจากซิลิโคนคุณภาพดี เคลือบโดยยูวีชนิดพิเศษที่ช่วยให้ผู้สวมใส่ไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะจากเหงื่อ รวมทั้งป้องกันสนิมได้ แถมด้านข้างหน้าปัดยังมีช่องระบายอากาศอีกด้วย
ไม่เพียงแค่นั้น ยังมาพร้อมกับ GPS ในตัวและเซ็นเซอร์ตรวจจับการทำงานของร่างกาย บันทึกข้อมูลการออกกำลัง และปริมาณแคลอรี เป็นต้น ส่วนราคาและวันจำหน่าย ยังไม่ได้ระบุออกมาอย่างเป็นทางการในเวลานี้
Huawei Watch
แม้จะมีข่าวเปิดตัวสมาร์ทวอทช์ออกมาแล้วเมื่อช่วงต้นปี ทว่าภายในงาน IFA 2015 ทางหัวเว่ยได้เปิดเผยวันและราคาจำหน่ายออกมาให้ทราบเรียบร้อยแล้ว
Huawei Watch เป็นสมาร์ทวอทช์ที่ทำงานในระบบ Android แต่รองรับการทำงานกับ iOS 8 ได้เช่นกัน มีให้เลือกใส่ทั้งสายหนังและสายเหล็ก หน้าปัดนาฬิกาทำจากกระจกแซฟไฟร์คริสตัลหนา 1.4 นิ้ว ความละเอียด 400×400 พิกเซล มาพร้อมกับฟังก์ชั่นด้านสุขภาพอย่าง ตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ, จำนวนก้าวเดินหรือวิ่ง และปริมาณแคลอรีที่เผาผลาญ เป็นต้น ส่วนแบตเตอรี่จะอยู่ได้ราวเกือบสองวันต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
ขณะที่ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 350-800 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 12,200-27,880 บาท) ขึ้นอยู่กับรุ่นที่เลือก โดยจะเริ่มจำหน่ายที่สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศแรกในวันที่ 17 กันยายนนี้แล้วครับ
Asus ZenWatch
ทางด้าน Asus เองก็ไม่ยอมน้อยหน้า เพราะได้ส่ง ZenWatch 2 ออกมาตีตลาดแข่งกับแบรนด์อื่น ๆ เช่นกัน รูปลักษณ์ภายนอกของหน้าปัดค่อนข้างเรียบง่าย มีให้เลือก 2 ขนาด ส่วนสายนาฬิกาก็มีแบบสายเหล็ก สายหนัง และยางให้เปลี่ยนใส่ได้ตามความชอบ ทำงานบนระบบ Android Wear ใช้ซีพียู Qualcomm Snapdragon 400 นอกจากนี้ผู้ใช้ยังปรับแต่งหน้าจอผ่านแอพพลิเคชั่น FaceDesigner บนสมาร์ทโฟนได้ด้วย
ทั้งนี้ Asus ZenWatch 2 จะเปิดตัวจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคมนี้ มีราคาเริ่มต้นที่ 165 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 5,765 บาท)
Alcatel Go Watch
ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถืออย่างอัลคาเทลเอง ก็เผยโฉมสมาร์ทวอทช์รุ่น Go Watch ให้ได้ชมภายในงานเช่นเดียวกัน ซึ่งแค่เห็นหน้าตาแวบเดียวก็พอเดาได้ว่าเป็นนาฬิกาที่เน้นความสมบุกสมบัน เพราะกันน้ำ กันฝุ่น และแรงกระแทกได้ดีพอสมควร รองรับการใช้งานกับสมาร์ทโฟนทั้งในระบบ Android และ iOS
หน้าปัดของ Go Watch เป็นจอ LCD ขนาด 1.22 นิ้ว ความละเอียด 240×240 พร้อมเซ็นเซอร์ประมวลผล Cortex-M4 แบตเตอรี่ 225mAH ซึ่งใช้เวลาชาร์จแค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้น ขณะที่ฟีเจอร์เด่นก็ได้แก่ แจ้งเตือนข้อความ อีเมล และสภาพอากาศ พร้อมเซ็นเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ แถมมอนิเตอร์อารมณ์ผู้ใส่ได้ด้วย เจ๋งสุด ๆ เลยเนอะ โดยจะเปิดให้ได้จับจองกันในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 195 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 6,815 บาท)
TomTom Spark
ด้านแบรนด์ TomTom เองก็มีสมาร์ทวอทช์ที่น่าสนใจเช่นเดียวกันกับรุ่น Spark ซึ่งดูแล้วเป็นนาฬิกาแนวสปอร์ต เหมาะกับใส่ออกกำลังมาก ๆ ที่สำคัญมาพร้อมหน่วยความจำในตัว ที่สามารถบันทึกเพลงได้มากกว่า 500 เพลง โดยไม่ต้องพกมือถือติดตัวไปด้วย เช่นด้วยกับฟังก์ชั่นที่สมาร์ทวอทช์อื่น ๆ มี เช่น ตรวจนับจำนวนก้าวเดิน, แคลอรีที่เผาผลาญ และตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ โดยทางผู้ผลิตได้เปิดให้ได้สั่งจองล่วงหน้าแล้ว ในราคา 285 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 9,995 บาท)
Wena Wrist Smartwatch
Wena เป็นสมาร์ทวอทช์ของทาง Sony ซึ่งเป็นโปรเจคท์เล็ก ๆ ของ Wena Team และผู้ผลิตนาฬิกาอย่าง Citizen ที่เกิดจากการระดมทุนมาใช้ในการผลิต กระทั่งในที่สุดก็ออกมาเป็นนาฬิกาเรือนหรูรุ่นนี้
หน้าตาภายนอกดูเรียบหรู เหมือนไม่มีอะไร ทว่าบริเวณสายนาฬิกามีชิป NFC ฝังอยู่ภายใน เอาไว้ซื้อสินค้าซึ่งจะทำงานร่วมกับบัตรเครดิตที่ลงทะเบียนไว้บนสมาร์ทโฟนที่มีการเชื่อมต่อ แทนที่จะต้องเสียเวลาหยิบกระเป๋าตังค์ หยิบบัตรมารูด รวมทั้งเซ็นเซอร์สำหรับนับจำนวนก้าว แจ้งเตือนข้อความหรืออีเมลที่ส่งมาทางมือถือ โดยขณะนี้ Wena จะรองรับการทำงานกับไอโฟน iOS 8 ขึ้นไปเท่านั้น
ทั้งนี้สมาร์ทวอทช์ Wena จะมีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ Three Hands ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 287 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 10,065 บาท) และ Chronograph ราคา 576 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 20,200 บาท)
นับว่าสมาร์ทวอทช์แต่ละรุ่นที่ข้างต้นนั้น มีความน่าสนใจกันไปคนละแบบเลยทีเดียว บางรุ่นฟังก์ชั่นแทบจะเหมือนกันทั้งหมด แต่ต่างกันที่รูปลักษณ์ภายนอกเท่านั่นเอง ใครสนใจนาฬิกาข้อมือรุ่นไหนก็ลองเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ผู้ผลิตกันได้เลยครับ
Credit : http://men.kapook.com/