หลากข้อแตกต่างระหว่างกล้องฟิล์มและกล้องดิจิตอล ที่จะช่วยให้คุณรู้ว่ากล้องแบบไหนเหมาะกับตัวเองมากที่สุด
เรียกได้ว่ากระแสของ การถ่ายรูป กำลังเป็นที่นิยมสุด ๆ ในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูปโดยใช้กล้องดิจิตอลหรือกล้องฟิล์ม ก็สามารถสร้างสรรค์ภาพสวย ๆ ได้เหมือนกัน เพียงแต่ให้อารมณ์ภาพที่แตกต่างกัน ทว่าหลายคนอาจยังไม่รู้ว่ากล้องทั้ง 2 ประเภท มีข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไร โดยวันนี้เราจึงหยิบเอาข้อเปรียบเทียบของกล้องฟิล์มและกล้องดิจิตอลจากเว็บไซต์ petapixel มาฝากกันครับ
ความละเอียดของกล้องฟิล์มและกล้องดิจิตอล
เรื่องความละเอียดของกล้องทั้ง 2 ประเภท มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะกล้องดิจิตอลจะใช้เซ็นเซอร์ภาพเป็นตัวกำหนดค่าพิกเซล เมื่อซูมภาพดิจิตอลใหญ่มากพอ ก็จะเห็นเม็ดพิกเซลทรงสี่เหลี่ยมอยู่เต็มภาพ ซึ่งกล้องดิจิตอลแบบ DSLR รุ่นใหม่ จะมีความละเอียดประมาณ 24 ล้านพิกเซลขึ้นไป
ส่วนกล้องฟิล์มไม่มีหน่วยพิกเซล แต่จะใช้แสงที่ผ่านเข้ามาจากเลนส์ ทำปฎิกิริยากับสารเคมีของกล้องและเม็ดเกรนในฟิล์ม โดยความละเอียดขึ้นอยู่กับประเภทฟิล์มที่ใช้ ซึ่งจะให้มีช่วงความละเอียดประมาณ 4-16 ล้านพิกเซล และหากซูมภาพชัด ๆ ก็จะเห็นเม็ดสีกระจายอยู่ทั่วภาพ
โดยความละเอียดของกล้องฟิล์มและดิจิตอล ให้ความคมชัดและอารมณ์ภาพที่ต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าคุณชอบแบบไหน ก็เลือกใช้แบบนั้นไปเลย ก็จะช่วยให้ได้ภาพถ่ายที่ถูกใจได้ไม่ยากแล้ว
ความต่างของสิ่งรบกวนภาพ
คนที่ใช้กล้องดิจิตอลน่าจะรู้จักคำว่า Noise หรือสัญญาณรบกวนภาพอยู่แล้ว ซึ่งจะเห็นได้ชัดมาก เมื่อถ่ายภาพในที่มืดหรือแสงน้อย ประกอบกับตั้งค่าความไวแสง (ISO) สูง ๆ ในขณะที่กล้องฟิล์มจะมีเม็ดเกรน (Film Grain) จำนวนมากปรากฏขึ้นในภาพ ซึ่งเกิดจากสารเคมีในกล้องได้รับแสงไม่เพียงพอนั่นเอง
อย่างไรก็ดี สัญญาณรบกวนของกล้องดิจิตอลจะเกิดขึ้นในภาพสี ส่งผลให้ภาพที่ได้ไม่คมชัดตามต้องการ ส่วนเม็ดเกรนในภาพขาวดำจากกล้องฟิล์มนั้น ช่างภาพบางคนจะใช้เม็ดเกรนเพื่อเพิ่มคาแรกเตอร์ต่าง ๆ ให้กับภาพ ไม่เพียงเท่านี้ เซ็นเซอร์ภาพของกล้องดิจิตอลต้องถ่ายในบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำ เพื่อเลี่ยงสัญญาณรบกวน ส่วนกล้องฟิล์มไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนเลย
ไดนามิค เรนจ์
ไดนามิค เรนจ์ (Dynamic Range) คือความสามารถในการเก็บรายละเอียดแสงของกล้อง ส่วนจะมีมากน้อยเท่าไร ก็ขึ้นอยู่กับความไวแสงของกล้องแต่ละรุ่น ซึ่งนับว่ากล้องดิจิตอลได้เปรียบกล้องฟิล์มอยู่พอสมควร เพราะกล้องดิจิตอลในปัจจุบันมีค่าไดนามิค เรนจ์ ที่ 14 สต๊อปขึ้นไป ส่วนกล้องฟิล์มส่วนใหญ่มีค่าดังกล่าวประมาณ 13 สต๊อป นอกจากนี้ กล้องดิจิตอลรุ่นใหม่ยังพัฒนาความสามารถของไดนามิค เรนจ์ ให้ดีขึ้นไปอีก ซึ่งเรียกว่า High Dynamic Range (HDR)
ความไวแสงที่ต่างกัน
โดยทั่วไปแล้ว กล้องฟิล์มจะมีค่าความไวสูงสุดที่ ISO 6400 ซึ่งเมื่อนำมาเทียบกับกล้องดิจิตอลที่เห็นในปัจจุบัน อาจตกเป็นรองอยู่มาก เพราะกล้องดิจิตอลบางรุ่นสามารถปรับค่าความไวแสงได้สูง ISO 51200 ขณะที่กล้องดิจิตอลแบบฟูลเฟรมปรับค่าดังกล่าวได้สูงถึง ISO 409,600 เลยทีเดียว
ไม่เพียงแค่นั้น กล้องดิจิตอลยังมีปุ่มตั้งค่า ISO ที่สะดวกกว่ากล้องฟิล์มด้วย ซึ่งกล้องฟิล์มต้องคอยเปลี่ยนม้วนฟิล์ม เพราะฟิล์มแต่ละรุ่นมีค่าความไวแสงที่กำหนดมาให้มีความต่างกันยังไงล่ะ
ต้นทุนและความสะดวกในการใช้งาน
หากพิจารณาเรื่องต้นทุนของกล้องและความสะดวกด้านการใช้งานแล้ว ทั้งกล้องฟิล์มกับกล้องดิจิตอลมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าคุณชอบแบบไหนมากกว่า
โดยกล้องดิจิตอลจะมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่สูง เพราะเทคโนโลยียิ่งก้าวไปข้างหน้ามากเท่าไร ก็จะมีกล้องหรืออุปกรณ์เสริมรุ่นใหม่ ๆ ออกมาให้เลือกใช้งานมากขึ้น เช่น เลนส์กล้องและแฟลช เป็นต้น ส่วนการใช้งานนั้นถือว่าสะดวกมาก เพราะนอกจากจะถ่ายภาพเร็วและเก็บภาพได้มากแล้ว ยังไม่ต้องกังวลว่าฟิล์มจะหมดด้วย
ในขณะที่กล้องฟิล์มส่วนใหญ่และอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่มีการพัฒนาด้านเทคโนโลยี ซึ่งทำให้มีต้นทุนไม่สูงเท่ากล้องดิจิตอล แต่การใช้งานอาจไม่ค่อยสะดวกนัก เพราะต้องถ่ายอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ฟิล์มเสียโดยเปล่าประโยชน์ แถมยังมีค่าใช้จ่ายในการซื้อและล้างฟิล์มอีก ซึ่งคนที่ไม่เคยใช้กล้องฟิล์มอาจรู้สึกเบื่อได้ง่าย ๆ
เมื่อได้ทราบถึงข้อเปรียบเทียบต่าง ๆ ระหว่างกล้องฟิล์มกับกล้องดิจิตอลกันไปแล้ว ใครที่สนใจอยากใช้งานกล้องประเภทไหน ก็ลองศึกษาข้อมูลให้ดี แล้วเลือกกล้องที่โดนใจตัวเองมากที่สุดเลยครับ
Credit : http://men.kapook.com/