แม้จะได้ชื่อว่าเป็นกีฬายอดนิยมอันดับหนึ่งของเมืองไทย แต่ปัญหาของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย คือ ยังไม่มีสนามฟุตบอลไว้รองรับการแข่งขันระดับนานาชาติเป็นของตัวเอง จนต้องไปเช่าสนามเอง หนึ่งในปัญหาที่เพิ่งเกิดเมื่อ สนามศุภชลาศัย ที่เช้าไว้เตะฟุตบอลชุด u23 ปีชิงแชมป์เอเชีย เละตุ้มเป๊ะเมื่อโดนฝนกระหน่ำ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ “บิ๊กโจ” พาทิศ ศุภะพงษ์ โฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้เผยถึงโปรเจ็กต์ในการสร้างสนามฟุตบอลของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ว่า จะมีการนำเสนอโปรเจ็กต์ฟีฟ่า เพื่อของบในการมาทำโมเดลสนามและการพรีเซ็นต์ให้กับบรรดาภาคเอกชนหรือแฟนบอลเพื่อเป็นการระดมทุนในการสร้างสนามฟุตบอลไว้รองรับการแขางขันระดับนานาชาติ
ตอนนี้ท่านนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ก็ได้เปรยๆ ไว้กับโครงการนี้ เราจะของบส่วนหนึ่งจากฟีฟ่าในปี2019 เพื่อมาทำพรีเซ็นต์โครงการนี้ เพราะต้องการมีสนามฟุตบอลเป็นของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯเอง โดยเล็งไว้ที่ความจุประมาณ 40,000-50,000 ที่นั่งเป็นแบบฟุตบอลสเตเดี้ยม ซึ่งที่ตั้งของสนามจะอยู่ในแถบของกรุงเทพปริมณฑล ที่จะต้องมีโครงข่ายคมนาคมที่ไปมาสะดวก ในพื้นที่ประมาณ 50 ไร่ขึ้นไป โดยส่วนของที่ดินจะทำเรื่องขอไปยังภาครัฐบาลเพื่อนำมาสร้างสนามแห่งนี้ เนื่องจากเป็นการเพื่อสาธารณประโยชน์ และอาจจะมีสัญญาผูกพันในการให้ใช้ที่ดินยาวหน่อย
โฆษก ส.กีฬาฟุตบอลฯ ยังเผยว่า เรื่องของเงินทุนนั้น จะมาจากหลายทาง โดยจะเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนซึ่งมีความน่าสนใจจะลงทุน เพราะรายรอบสนามฟุตบอลฯ อาจจะทำเป็นพวกห้างสรรพสินค้า, คอมมูนิตี้มอลล์ หรือพวกคอนโดฯ เป็นการดึงดูดให้มาลงทุนช่วยสร้างสนาม ขณะเดียวกันงบส่วนหนึ่งจะมาจากการขอสปอนเซอร์ และในส่วนของแฟนฟุตบอลก็สามารถร่วมบริจาคได้ เหมือนอย่างที่เราไปดูสนามในเมืองโอซาก้า ก็ให้แฟนบอลมีส่วนร่วมบริจาคและอาจจะมีชื่อผู้บริจาคติดไว้ตามเก้าอี้หรือส่วนต่าง ๆ ในสนาม ที่โอซาก้าเขาแบ่งเป็นงบลงทุนจากเอกชน 60 และแฟนบอล 40 ซึ่งก็ทำได้สำเร็จ โครงการนี้ส.กีฬาฟุตบอลฯจะเริ่มพรีเซ็นต์ในปี 2019 แต่จะได้เริ่มสร้างเมื่อไหร่ เสร็จเมื่อไหร่ ยังตอบไม่ได้ แต่เราก็หวังว่าจะสร้างสนามฟุตบอลระดับนานาชาติให้ได้เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อวงการฟุตบอลไทย