ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2014-2015 ปิดฉากไปแล้วเมื่อ วันอาทิตย์ที่ผ่านมา
“จิ้งจอก สยาม”เลสเตอร์ ทีมที่มีคนไทยเป็นเจ้าของ ที่ถือหุ้นผ่านบริษัท คิง เพาเวอร์ สามารถที่จะฟันฝ่าอุปสรรคอยู่รอดได้สำเร็จ หลังจากเพิ่งก้าวมาเล่นในลีกสูงสุดได้เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา
เลสเตอร์ชุดนี้มี ไนเจล เพียร์สัน กุนซือ วัย 51 ปี ทำทีมมาตั้งแต่ครั้งยังอยู่ในลีกแชมเปี้ยนชิพ จนจบฤดูกาลคว้าแชมป์ พร้อมกับก้าวมาเล่นในพรีเมียร์ลีก
ก่อนฤดูกาล เกจิส่วนใหญ่ฟันธงว่า เลสเตอร์น่าจะเป็น 1 ใน 3 ทีมที่น่าจะตกชั้น แม้ว่าจะเป็นแชมป์ลีกแชมเปี้ยนชิพก็ตาม
เพราะพรีเมียร์ลีกโหดกว่าแชมเปี้ยนชิพมากมายนัก
ช่วงครึ่งฤดูกาลแรก ดูเหมือนว่าคำทำนายของเกจิลูกหนังทั้งหลายจะกลายเป็นจริง เพราะเลสเตอร์จมอยู่บ๊วย
แม้ว่าช่วงต้นฤดูกาลจะโชว์ฟอร์มสุดยอดเปิดบ้านถล่มแมนฯ ยู 5-3 ทั้งที่เป็นฝ่ายตามหลัง 1-3 แต่สุดท้ายก็พลิกเก็บ 3 แต้มได้
แต่หลังจากนั้นดูเหมือนว่าฟอร์มจะเริ่มแผ่วลงอย่างเห็นได้จัด จากกลางตาราง หล่นมาอยู่ทีมบ๊วย
ตั้งแต่ปลายเดือนก.ย.ถึงช่วงบ๊อกซิ่งเดย์ เลสเตอร์ผลงานแย่ ไม่ชนะใคร 13 นัด โดยแพ้ถึง 11 นัด
ช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.มีข่าวตามสื่อต่างๆ เกือบตลอดว่า เพียร์สันจะโดนเด้งจากเก้าอี้ เพราะผลงานย่ำแย่
แต่เพียร์สันและนักเตะก็ประคับประคองทีม พร้อมกับเสริมทัพในช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะรอบสองเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา
โดยได้ทั้ง โรเบิร์ต ฮูธ เซ็นเตอร์ตัวแกร่งชาวเยอรมันมาช่วยแนวรับ
ส่วน แดนกลางมี เอสเตบัน คัมบิอัสโซ่ กองกลางมากประสบการณ์ชาวอาร์เจนไตน์ ที่เคยนำอินเตอร์ มิลาน ยักษ์ใหญ่ของอิตาลีกวาด 3 แชมป์มาแล้วเมื่อปี 2010
ผสมผสานกับนักเตะที่มีอยู่อย่าง แคสเปอร์ ชไมเคิล นายทวารมือ 1 ชาวเดนมาร์ก
โดย ปรับแผนการเล่นจากระบบ 4-4-2 มาเป็น 3-5-2 เวส มอร์แกน กัปตันทีม ยืนกองหลัง 3 ตัวกับ โรเบิร์ต ฮูธ และ มาร์ซิน วาซิเลฟสกี้ ทำให้แนวรับแข็งแกร่งขึ้น
เฉพาะช่วงท้ายฤดูกาลสามารถเก็บ 19 แต้ม จาก 8 นัดหลังสุด
เจมี่ วาร์ดี้, เลโอนาร์โด้ อูยัว กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์, มาร์ก อัลไบรห์ตั้น, ริยาด มาห์เรซ
กระทั่ง บุกเสมอซันเดอร์แลนด์ 0-0 เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา เก็บได้เพียง 1 แต้ม แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เลสเตอร์อยู่รอดปลอดภัยในพรีเมียร์ลีก
ปัจจัย สำคัญที่ทำให้ทีมอยู่รอด นอกจากฝีมือของโค้ชเพียร์สันแล้ว ยังมีนักเตะดังอย่างคัมบิอัสโซ่ที่นำประสบการณ์มาช่วยให้ทีมเก็บชัยชนะได้
มิดฟิลด์วัย 35 ปีรายนี้เข้ามาอยู่กับเลสเตอร์แบบฟรีๆ ก่อนจะทำผลงานได้เกินคุ้ม พร้อมกับคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของสโมสร
หลังจากนี้กำลังจะต่อสัญญาใหม่
เพียร์ สันเล่าถึงความรู้สึกกับความสำเร็จตามเป้าหมายครั้งนี้ว่า “ผู้คนต่างทำให้ผมกังวล เพราะมันยากที่จะได้รับความสุขในช่วงเวลาแห่งนี้ ผมไม่ได้คิดถึงความสุขของผมคนเดียว แต่ต้องการให้นักเตะ แฟนบอล และสโมสรมีความสุขด้วย ขอบคุณพระเจ้าที่เราทำได้สำเร็จ ตอนนี้ผมรู้สึกโล่งอกที่เราอยู่รอด”
เลสเตอร์กลายเป็นทีมที่ 3 ในประวัติ ศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่อยู่อันดับบ๊วยในช่วงคริสต์มาส แต่ก็สามารถพลิกสถานการณ์อยู่รอดได้ ต่อจากเวสต์บรอมวิชเมื่อฤดูกาล 2004-2005 และซันเดอร์แลนด์เมื่อฤดูกาล ที่แล้ว
จิ้งจอกสยามชุดนี้คือยอดทีมแห่งปีที่พลิกสถานการณ์จนสู่เป้าหมายได้สำเร็จ
Credit : http://www.khaosod.co.th/