สมาคมว่ายน้ำฯตั้งกรรมการ สอบ “เจมส์บอนด์” ณัฐพงษ์ เกษอินทร์ ที่ต้องถอนตัวออกจากการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 28 หลังถูกตรวจพบว่าใช้สารต้องห้ามในระหว่างการฝึกซ้อม ส่วนผลงาน 1 เหรียญทองถือว่าล้มเหลว แต่หากดู จากสถิติที่ทำในภาพรวมถือว่าน่าพอใจ…
“โค้ชตึก” นายธนาวิชญ์ โถสกุล เลขาธิการสมาคมว่ายน้ำแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า แม้ว่าทัพนักว่ายน้ำไทยจะคว้าได้เพียงเหรียญทองเดียวจากการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่ประเทศสิงคโปร์ก็ตาม แต่สถิติโดยรวมถือว่าน่าพอใจ นักกีฬาส่วนใหญ่ทำสถิติได้ดีขึ้น โดยมีการทำลายสถิติประเทศไทยถึง 12 รายการ และทำสถิติดีกว่าซีเกมส์ 1 รายการ อย่างไรก็ตาม หากมองที่เหรียญรางวัลถือว่าล้มเหลว ซึ่งสาเหตุมาจากนักว่ายน้ำชาติอื่นโดยเฉพาะสิงคโปร์และเวียดนามพัฒนาไปมากกว่าไทย
“ผมจะหารือกับฝ่ายเทคนิคเพื่อวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ทำให้เราทำผลงานไม่ได้ตามเป้าอย่างซีเรียสเพื่อนำมาปรับปรุงและวางแผนเตรียมทีมนักกีฬากันต่อไป ซึ่งจากการวิเคราะห์เบื้องต้น ส่วนหนึ่งมาจากการที่นักกีฬาต่างชาติได้รับการสนับสนุนเต็มที่จากรัฐบาลในการส่งไปเรียนและซ้อมต่างประเทศ ยกตัวอย่างเช่น โจเซฟ สคูลลิ่ง ราชาสระของสิงคโปร์ ที่กวาดไป 9 เหรียญทอง กับ เหงียน ทิ อันห์ เวียนห์ ราชินีสระของเวียดนาม ที่ได้ไป 8 เหรียญทอง ทั้งคู่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลให้ไปซ้อมที่สหรัฐอเมริกา ในขณะที่ของไทยเราเองก็ต้องยอมรับว่า โค้ชส่วนใหญ่ยังต้องพัฒนา หากเราไม่ไปซ้อมต่างประเทศก็ต้องหาโค้ชมืออาชีพมาฝึกสอนนักว่ายน้ำไทย” นายธนาวิชญ์กล่าว
เลขาธิการสมาคมว่ายน้ำฯกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีของ “เจมส์บอนด์” ณัฐพงษ์ เกษอินทร์ ตัวเต็งเหรียญทองที่ต้องถอนตัวออกจากการแข่งขันเนื่องจากถูกตรวจพบว่า ใช้สารต้องห้ามในระหว่างการฝึกซ้อมนั้น สมาคมจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริง ซึ่งในเบื้องต้นจากการสอบถามนักกีฬา ได้รับการยืนยันว่า ไม่ได้ใช้ยาอะไรทั้งสิ้น
“กรณีนี้หากนักกีฬาผิดจริงก็ต้องถูกห้ามแข่งขันนานถึง 4 ปีตามกฎขององค์การต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก ซึ่งหมายถึงว่าเจมส์บอนด์อาจจะปิดฉากการเป็นนักว่ายน้ำไปเลยก็ตาม แต่หากนักกีฬาไม่ได้ใช้ยาโด๊ป สมาคมก็จะทำเรื่องอุทธรณ์ไปยังสหพันธ์ว่ายน้ำนานาชาติจนถึงที่สุดเช่นกัน” นายธนาวิชญ์ กล่าวในตอนท้าย
Credit : http://www.thairath.co.th/
