‘ลักษิกา คำขำ’ มือเต็ง 1 ของรายการต้านความสดไม่ไหว พ่าย หวัง เฉียง จากจีน 2 เซตรวด ได้เพียงแค่เหรียญเงินหญิงเดี่ยว เทนนิสอินชอนเกมส์
30 ก.ย. 57 การแข่งขันเทนนิสในกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่เยรูมุล เทนนิส คอร์ต เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ เป็นการเล่นรอบชิงชนะเลิศ ประเภทหญิงเดี่ยว “ลัก” ลักษิกา คำขำ นักหวดสาวเบอร์หนึ่งของไทย มือวางอันดับ 1 และมือ 96 โลก ที่เพิ่งควง “แทมมี่” แทมมารีน ธนสุกาญจน์ คว้าเหรียญทองหญิงคู่มาครองได้เป็นครั้งแรก เจอกับ หวัง เฉียง สาวจีน มือวางอันดับ 2 และมือ 108 ของโลก โดยก่อนหน้าเคยพบกัน 3 ครั้ง ลักษิกา ชนะ 2 แพ้ 1
เซตแรก ทั้งคู่ต่างรักษาเกมเสิร์ฟของตัวเองไว้ได้เสมอกัน 3-3 ถึงเกมที่ 7 ลักษิกา เป็นฝ่ายเสิร์ฟแต่กลับถูกคู่แข่งเบรกเสิร์ฟ ไล่ตาม 3-4 เกม 8 หวัง เฉียง รักษาเกมเสิร์ฟไว้ได้ ขึ้นแท่น 5-3 เกมที่ 9 สาวไทยวัย 21 ปี ที่แม้จะเป็นฝ่ายเสิร์ฟแต่กลับตีพลาดเองหลายครั้ง จนถูกเบรกและพ่ายไปในเซตแรก 3-6 เซตต่อมา สาวไทยออกตัวได้ดีเบรกเสิร์ฟคู่แข่งได้ตั้งแต่เกมแรก จนขึ้นนำ 2-0 และ 3-1
ทว่าจากนั้น ลักษิกา ฟอร์มไม่นิ่งเริ่มตีเสียเองอีก จนออกอาการหงุดหงิด จนจีนไล่มาทันที่ 4-4 และ 6-6 ต้องตัดสินที่ไทเบรก และแม้ในช่วงนี้ สาวไทยจะมีโอกาสขึ้นนำก่อน 4-2 แต่สุดท้ายแพ้ภัยตัวเอง โดนจีนไล่หวดแซงชนะไปได้ในที่สุด 2 เซตรวด สกอร์ 6-3 และ 7-6 ไทเบรก 7-5 ใช้เวลาแข่งขัน 1 ชั่วโมง 50 นาที สาวจีนได้เหรียญทอง ขณะที่ลักษิกาได้เหรียญเงิน ซึ่งนับเป็นเหรียญเงินหญิงเดี่ยวของไทยที่ได้มาอีกครั้ง ในรอบ 12 ปี หลังจากล่าสุด แทมมารีนเคยได้เหรียญเงินในเอเชี่ยนเกมส์ ปี 2002 ที่ปูซาน เกาหลีใต้
หลังการแข่งขัน ลักษิกา ยอมรับว่า ในรอบชิงชนะเลิศเล่นไม่ได้ดั่งใจ เล่นไม่ดี และตีหลุดเอง ส่วนคู่แข่งเล่นได้ดีกว่า อย่างที่เคยบอกไปว่าไม่ชอบบอลของคู่แข่งขัน ในขณะที่คู่แข่งขันชอบบอลตน ทำให้เกมเล่นยากและไม่ค่อยอดทนเลย ต้องขอโทษแฟนกีฬาชาวไทยทุกคนที่ไม่สามารถนำเหรียญทองกลับบ้านได้ แต่ได้พยายามแล้ว หากมีโอกาสได้เล่นเอเชี่ยนเกมส์อีก จะขอแก้ตัวเอาเหรียญทองกลับบ้านให้ได้ โดยหลังจากนี้จะเดินทางไปแข่งขันเทนนิสอาชีพ ที่โอซากา ประเทศญี่ปุ่น ต่อไป
“วันนี้ลักมีปัญหากับเสิร์ฟแรก เพราะเริ่มล้าจากการเล่นหลายแมทช์ ทำให้เสิร์ฟได้ไม่ค่อยดี ซึ่งมีผลต่อการแข่งขัน ลักเสียเอง ในขณะที่เขาเหนียวแน่น ต้องยอมรับว่าเขาเล่นได้ดีมาก สำหรับเอเชี่ยนเกมส์ครั้งแรก ลักดีใจนะคะ เล่นครั้งแรกแล้วได้ถึงขนาดนี้ เกินเป้าแล้ว ถ้ามีโอกาสได้เล่นอีก จะรู้สึกเป็นเกียรติที่จะได้เล่นอีก ส่วนผลงานที่เกิดขึ้นนั้นมาจากแรงใจจากทุกคน จากคนไทยล้วนๆ ก็ขอขอบคุณและขอโทษที่คว้าเหรียญทองหญิงเดี่ยวไม่สำเร็จ”
ส่วน นายวิเชษฐ์ ทีปกากร ผู้จัดการทีมเทนนิสชุดเอเชี่ยนเกมส์ กล่าวว่า สำหรับผลงานของเทนนิสไทยในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้ ได้มาทั้งหมด 3 เหรียญคือ เหรียญทองหญิงคู่, เหรียญเงินหญิงเดี่ยว และเหรียญทองแดงชายคู่ ถือว่าเกินเป้า เพราะก่อนมาโพลล์หลายสำนักไม่ได้ตั้งความหวังว่าจะได้เหรียญจากเทนนิส โดยหลังจากนี้นายสุวัจน์ได้เตรียมมอบเงินรางวัลให้นักกีฬาด้วย
ในส่วนลักษิกานั้น จะได้รับอัดฉีดจากลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย ที่มีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็นนายกสมาคม จำนวน 5 แสนบาท และรับเงินรางวัลตามเกณฑ์ของกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติอีก 5 แสนบาท รวมเป็น 1 ล้านบาท ซึ่งหากรวมกับเงินรางวัลที่ลักษิกาได้จากการคว้าเหรียญทองหญิงคู่อีก 1.5 ล้านบาท ทำให้รวมทั้งหมด ลักษิกาจะได้รับ 2.5 ล้านบาท และจากผลงานรวมของทีมเทนนิสไทย รวมเงินอัดฉีดที่จะได้ตามเกณฑ์กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เหรียญทองคนละ 1 ล้านบาท, เหรียญเงิน 5 แสนบาท, เหรียญเงิน 2 แสนบาท และอัดฉีดจากลอนเทนนิส เหรียญทองเหรียญละ 1 ล้านบาท เหรียญเงิน 5 แสนบาท, เหรียญเงิน 2 แสนบาท รวมทั้งสิ้น 4.6 ล้านบาท จากเหรียญเงินหญิงเดี่ยว (ลักษิกา) 1 ล้านบาท, แชมป์หญิงคู่ (ลักษิกา-แทมมารีน) 3 ล้านบาท และเหรียญทองแดงชายคู่ (สนฉัตร-สรรค์ชัย รติวัฒน์) 6 แสนบาท
Credit : http://www.komchadluek.net/