ได้ฤกษ์ระเบิดศึกฟุตบอลเยาวชน ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย “โค้กคัพ ครั้งที่ 19”ปลายเดือนนี้อย่างยิ่งใหญ่ ฉลองเข้าสู่ปีที่ 36 ภายใต้คอนเซปต์ “The Beginning of all Dreams” โดยมี 86 ทีมชั้นนำจาก 3 ลีกร่วมโม่แข้ง แบ่งการแข่งขัน รอบคัดเลือกทั่วประเทศออกเป็น 8 กลุ่ม ประเดิมกลุ่มแรกที่กรุงเทพมหานคร 25-31 ส.ค.นี้ ส่วนแชมป์จะได้เดินทางไปเพิ่มประสบการณ์ลูกหนังยังต่างประเทศเช่นเดิม
เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ที่ รร.เอสซี ปาร์ค นายพรวุฒิ สารสิน ประธานกรรมการ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด เป็นประธานแถลงข่าว “การแข่งขันฟุตบอลเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย โค้กคัพ ครั้งที่ 19” ภายใต้คอนเซปต์ “The Beginning of all Dreams” จุดเริ่มต้นของการสานฝันสู่นักฟุตบอลอาชีพ โดยมี นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผู้อำนวยการกองการแข่งขันกีฬาอาชีพ การกีฬาแห่งประเทศไทย ดร.องอาจ ก่อสินค้า ประธานบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด นายสุนทร มีสุวรรณ เหรัญญิก สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และนายโอฬาร เชื้อบาง รองกรรม– การผู้จัดการ บริษัท สยามสปอร์ตซินดิเคท จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยผู้สนับสนุนการแข่งขันอีกมากมายร่วมงาน
นายพรวุฒิเปิดเผยว่า วันนี้ทุกคนในกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลาของประเทศไทย รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้แถลงข่าวการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย “โค้กคัพ” ในปีนี้ หลังจากปีที่ผ่านมา ทางกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ได้จัดกิจกรรมฟุตบอลระดับเยาวชนในประเทศไทยครบรอบ 35 ปีมาแล้ว โดยนับตั้งแต่การจัดการแข่งขันครั้งที่ 19 ในปีนี้เป็นต้นไป “โค้ก” ยังมีความยินดีมอบรางวัลพิเศษให้กับทีมแชมป์ของ “โค้กคัพ” ครั้งที่ 19 เป็นทริปที่จะเพิ่มประสบการณ์ด้านฟุตบอล โดยพาทีมแชมป์ทัวร์สโมสรระดับโลกอีกเช่นเดิม
การแข่งขันฟุตบอล “โค้กคัพ” ครั้งที่ 19 ในครั้งนี้ คณะกรรมการจัดการแข่งขันยังคงเน้นนักเตะที่อายุไม่เกิน 19 ปีเหมือนกับ 3 ครั้งที่ผ่านมา และเพิ่มกิจกรรมการอบรมทักษะ ความรู้ด้านต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการก้าวเป็นนักฟุตบอลอาชีพ โดยเชิญทีมเยาวชนสำรองจากสโมสรไทยพรีเมียร์ลีกจำนวน 18 ทีม ทีมเยาวชนจากลีกดิวิชั่น 1 จำนวน 18 ทีม และทีมเยาวชนจากลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 รวมทั้งหมด 86 ทีมร่วมลงแข่งขัน แบ่งแข่งขันแบ่งออกเป็น 8 กลุ่ม ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมนำทีมที่ชนะเลิศในแต่ละกลุ่มทั้ง 8 กลุ่มเข้าไปแข่งขันในรอบ 8 ทีม จับ สลากประกบคู่การแข่งขันแบบ เหย้า-เยือนให้เหลือ 4 ทีมในรอบรองชนะเลิศ และแข่งขันแบบ เหย้า-เยือนเพื่อหาผู้ชนะเพื่อเข้ารอบชิงชนะเลิศต่อไป ทั้งนี้กลุ่มแรกการแข่งขันรอบคัดเลือก คือ กลุ่ม 1 จังหวัดกรุงเทพมหานคร ขณะเดียวกันในรอบ 8 ทีมสุดท้าย และรอบรองชนะเลิศจะไปเตะกันระหว่างเดือน ม.ค.-ก.พ.ปีหน้า และคาดว่าในรอบชิงชนะเลิศจะมีขึ้นได้ตอนปลายเดือน ก.พ.ปีหน้า
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันรอบคัดเลือกทั้งหมด 8 กลุ่มทั่วประเทศ มีดังนี้ กลุ่มที่ 1 ที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 25-31 ส.ค. กลุ่มที่ 2 ที่ จ.ชลบุรี ระหว่าง วันที่ 5-10 ก.ย. กลุ่มที่ 3 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ที่ จ.กาฬสินธุ์ ระหว่างวันที่ 17-22 ก.ย. กลุ่มที่ 4 ภาคตะวันตก ที่ จ.สมุทรสาคร ระหว่างวันที่ 3-8 ต.ค. กลุ่มที่ 5 ภาคเหนือตอนล่าง ที่ จ.อ่างทอง ระหว่างวันที่ 15-20 ต.ค. กลุ่มที่ 6 ภาคใต้ ที่จ.ระนอง ระหว่างวันที่ 3-10 พ.ย. กลุ่มที่ 7 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ที่ จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 14-19 พ.ย. และกลุ่มที่ 8 ภาคเหนือตอนบน ที่ จ.แพร่ ระหว่างวันที่ 28 พ.ย.-3 ธ.ค.
Credit : http://www.thairath.co.th/