“รัฐมนตรีกีฬา” กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร หวังดันร่างพระราชบัญญัติสภาวิชาชีพบุคลากรทางการกีฬา พ.ศ…. ให้สำเร็จรวดเร็ว ที่สุดในยุครัฐบาลชุดปัจจุบัน เชื่อมีความสำคัญที่จะสร้างบุคลากรทางการกีฬาให้มีคุณภาพ เผย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญเต็มที่ ขณะเดียวกัน ก็เตรียมจัดทัวร์นาเมนต์กีฬาระดับโลกในไทย เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากต่างชาติ หลังเกิดเหตุระเบิดที่ย่านราชประสงค์จนการท่องเที่ยวระส่ำ…
เมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในการประชุมวิพากษ์ร่างพระราชบัญญัติสภาวิชาชีพบุคลากรทางการกีฬา พ.ศ. … โดยมี ดร. อารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน ผู้ตรวจราชการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, ดร.กิตติพงษ์ โพธิมู รักษาการอธิบดีกรมพลศึกษา พร้อมบุคลากรในวงการกีฬาร่วมประชุม
นางกอบกาญจน์ กล่าวว่า พระราชบัญญัติสภาวิชาชีพบุคลากรทางการกีฬา ถือเป็น พ.ร.บ.ที่มีความสำคัญที่จะสร้างบุคลากรทางการกีฬาให้มีคุณภาพ มีมาตรฐานและก้าวไกลซึ่งตรงกับหลัก 12 ประการของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้บุคลากรมีความเข้มแข็งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งกีฬามีทั้งกีฬามวลชนและกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงสร้างความสามัคคี ตนขอเป็นกำลังใจเพื่อผลักดันพระราชบัญญัติฉบับนี้ให้เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดปัจจุบันซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีก็ให้ความสำคัญทางด้านกีฬา สามารถลงมือทำได้ทันที
รัฐมนตรีกีฬากล่าวต่อไปว่า หลังจากเกิดเหตุระเบิดย่านราชประสงค์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ทำให้ต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาเที่ยวเมืองไทยให้มากที่สุด โดยจะดึงอีเวนต์กีฬาใหญ่ๆ มาจัดในไทยเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกีฬาใหญ่ๆที่ไม่เคยจัดมาก่อน แต่ต้องขอดูอีกครั้งว่าจะเป็นรายการไหน ส่วนในเรื่องของการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพยูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 4 ใน ค.ศ.2022 หรือ 7 ปีข้างหน้านั้น ยังยืนยันว่าเป็นนโยบายที่ให้ความสนใจ เพราะเป็นการแข่งขันกีฬาระดับเยาวชนซึ่งเป็นพื้นฐานของประเทศ
ทั้งนี้ การประชุมวิพากษ์ร่างพระราชบัญญัติสภาวิชาชีพบุคลากรการกีฬาในครั้งนี้ กรมพลศึกษาจะได้นำไปดำเนินการพิจารณาปรับปรุงทั้งเนื้อหาสาระและกระบวนการดำเนินงานของสภาวิชาชีพที่จะเกิดขึ้น รวมถึงการนำเข้าสู่ขั้นตอนทางนิติบัญญัติ เพื่อประกาศใช้อย่างเป็นทางการในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
Credit : http://www.thairath.co.th/
