เหรียญพระมหาชนก และบทพระราชนิพนธ์
ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
พระมหาชนก เป็นพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชฯ พระองค์ทรงเริ่มค้นคว้าเรื่องพระมหาชนกจากพระไตรปิฎกในปีพุทธศักราช ๒๕๒๐ ต่อจากที่ได้ทรงสดับพระธรรมเทศนาของสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (วิน ธมฺมสาโร มหาเถร) แห่งวัดราชผาติการาม เรื่อง พระมหาชนกเสด็จทอดพระเนตรพระราชอุทยาน ในกรุงมิถิลา ที่แสดงให้เห็นถึงการบำเพ็ญวิริยบารมีของพระมหาชนก ซึ่งมีคติที่ชัดเจน และน่าจะเป็นประโยชน์อย่างมหาศาลแก่ชนทุกหมู่เหล่า จึงทรงเก็บใจความสำคัญของเรื่องมาทรงพระราชนิพนธ์เป็นสำนวนที่ทันสมัย ดัดแปลงแก้ไขเรื่องตอนท้ายในคติธรรมเกี่ยวกับการศึกษาเพิ่มเติม ซึ่งพระราชนิพนธ์พระมหาชนกนั้น เป็นหนังสือที่ทรงคุณค่าและมีคุณประโยชน์มหาศาลแก่ชนทุกระดับชั้น ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางเป็นที่แพร่หลายทั่วไป
พระราชนิพนธ์พระมหาชนกมีเนื้อเรื่องกล่าวถึง พระเจ้ามหาชนกกษัตริย์แห่งกรุงมิถิลา มีพระราชโอรสสองพระองค์ พระนามว่า อริฏฐชนก และ โปลชนก เมื่อสวรรคตแล้ว พระอริฏฐชนกได้ครองราชสมบัติและทรงตั้งพระโปลชนกเป็นอุปราช อมาตย์ผู้ใกล้ชิดได้กราบทูลใส่ร้ายว่าพระอุปราชโปลชนกคิดไม่ซื่อ พระอริฏฐชนกก็หลงเชื่อ สั่งจองจำพระโปลชนก แต่พระโปลชนกตั้งจิตอธิษฐานและหลบหนีไปได้ ภายหลังได้รวบรวมพลมาท้ารบและเอาชนะได้ในที่สุด พระอริฏฐชนกสิ้นพระชนม์ในที่รบ
พระเทวีที่กำลังทรงครรภ์จึงปลอมตัวหนีไปจนถึงเมืองกาลจัมปากะ ต่อมามีพระประสูติกาล ตั้งพระนามพระโอรสตามพระอัยยิกาว่า “มหาชนก” จวบจนกระทั่งมหาชนกเติบใหญ่ และได้ทราบความจริง ก็คิดจะไปเอาราชสมบัติคืน ระหว่างทางในมหาสมุทร เรือเจอพายุจนล่มลง ลูกเรือตายหมดเหลือแต่พระมหาชนกรอดผู้เดียว ทรงอดทนว่ายน้ำในมหาสมุทรด้วยความเพียร ๗ วัน ๗ คืน จนได้พบนางมณีเมขลา ในที่สุดนางมณีเมขลาได้อุ้มพระมหาชนกไปส่งยังมิถิลานคร
ฝ่ายมิถิลานคร พระโปลชนกได้สวรรคตเหลือเพียงพระราชธิดานาม “สีวลีเทวี” ก่อนสวรรคตทรงตั้งปริศนาเรื่องขุมทรัพย์ทั้งสิบหกไว้สำหรับผู้จะขึ้นครองราชย์ต่อไป แต่ไม่มีผู้ใดไขปริศนาได้ เหล่าอมาตย์จึงได้ประชุมกันแล้วปล่อยราชรถ ราชรถก็แล่นไปยังที่มหาชนกบรรทมอยู่ เหล่าอมาตย์จึงเชิญเสด็จขึ้นครองราชย์และอภิเษกกับสีวลีเทวี ทรงไขปริศนาต่างๆ ได้ และทรงครองราชสมบัติโดยธรรม
ข้อคิดที่ได้จากเรื่อง คือความเพียร ความพยายาม ความกล้าที่จะลงมือทำ เป็นแนวทางให้ดำเนินไปสู่ความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ กล้าเผชิญกับความทุกข์ยาก ปัญหาและอุปสรรคที่จะเกิดขึ้น หากมีอุปสรรคข้อขัดข้องใดๆ ไม่ย่อท้อ ไม่สิ้นหวัง เดินหน้าเรื่อยไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายคือความสำเร็จ ดังเช่นพระมหาชนกที่มีความเพียร อดทน ว่ายน้ำในทะเลนาน ๗ วัน ๗ คืน
พระราชนิพนธ์พระมหาชนก เป็นหนังสือที่สวยงาม มีภาพประกอบศิลปะไทยร่วมสมัยที่งดงามด้วยศิลปินที่มีฝีมือยอดเยี่ยม จัดพิมพ์ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ กำกับอักษรเทวนาครี ทรงใช้ระยะเวลาค้นคว้าและพระราชนิพนธ์ประมาณ ๑๙ ปี ตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๒๐ จนถึงปีพุทธศักราช ๒๕๓๙ จึงแล้วเสร็จสมบูรณ์ออกสู่สายตาพสกนิกรไทยและชาวต่างชาติในโอกาสเฉลิมฉลองกาญจนาภิเษกแห่งรัชกาล ซึ่งได้รับการต้อนรับและเป็นที่ชื่นชมแก่ผู้ที่ได้พบเห็นเป็นอย่างมาก
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ ๙ ทรงมีพระราชดำรัสเกี่ยวกับพระราชนิพนธ์ พระมหาชนก เมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๓๙ ตอนหนึ่งความว่า “…หนังสือนี้เป็นที่รักของข้าพเจ้า หนังสือนี้ไม่มีที่เทียม และจะเป็นที่เริงใจของผู้อ่าน ต้องการให้เห็นว่าสำคัญที่สุด คนเราทำอะไรต้องมีความเพียร ขอจงมีความเพียรที่บริสุทธิ์ ปัญญาที่เฉียบแหลม กำลังกายที่สมบูรณ์…”
พระราชนิพนธ์ พระมหาชนก กล่าวได้ว่าเป็นผลงานที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงรักยิ่ง และด้วยพระวิริยอุตสาหะจึงทำให้ประสบความสำเร็จได้ในที่สุด นับเป็นพระราชนิพนธ์ที่ทรงคุณค่าและมีประโยชน์อย่างยิ่งแก่ผู้ที่มีโอกาสได้อ่าน เพื่อนำมาเป็นคติสอนใจ และเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ซึ่งในการทำสิ่งใดก็ตามหากขาดความเพียรพยายามเสียแล้วก็ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า “คนล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร” ซึ่งความทุกข์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชฯ นั้น คือความลำบากของราษฎร พระองค์ท่านจึงมีความเพียร ใช้ความเพียรบำบัดทุกข์ด้วยการทุ่มเทพระราชหฤทัยและพระวรกายทรงงานหนักตลอดพระชนม์ชีพเพื่อความสุขของคนไทยทั้งชาติ
เหรียญพระมหาชนกจัดทำขึ้นคู่กับหนังสือพระมหาชนกฉบับพระราชนิพนธ์ โดยการเปิดให้ผู้สนใจได้สั่งจองเหรียญพระมหาชนก ซึ่งมีอยู่ 2 ราคา คือ แบบแรกราคา 50,000 บาท และแบบที่สองราคา 5,000 บาท ซึ่งทั้งสองแบบนั้นจะต่างกันที่จำนวนและแบบของเหรียญเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันนี้ เหรียญทั้งสองแบบนั้น ก็ต่างเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก มีมูลค่าสูงมากยิ่งๆ ขึ้นไปอีก เพราะใครๆ ก็ต่างอยากมีไว้ครอบครองเพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิตของตนเอง และครอบครัวให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป
เหรียญพระมหาชนกนั้น ไม่ว่าจะเป็นแบบพิมพ์เล็กหรือพิมพ์ใหญ่ ถูกออกแบบโดย อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยศิลปากร ศาสตราจารย์นนทิวรรธ์ จันทนะผลิน ซึ่งเป็นอาจารย์ประจำคณะประติมากรรม ภาพพิมพ์และภาพไทย ซึ่งถือว่าเป็นการออกแบบที่มีความหมายลึกซึ้งมาก ท่านได้ออกแบบมาจากความตั้งใจ ที่จะออกแบบเหรียญนี้มาเพื่อเป็นมิ่งขวัญกับชาวไทย และเป็นเครื่องยึกเหนี่ยวจิตใจ ให้กระทำแต่ความดี มีความขยัน หมั่นเพียร และตั้งมั่นอยู่ในคุณงามความดี
เหรียญพระมหาชนก เป็นเหรียญที่มีคุณค่า และมูลค่าที่สูง โดยวัสดุที่ใช้ในการผลิตเหรียญพระมหาชนกนั้น ไม่ว่าจะเป็นแบบพิมพ์ใหญ่หรือพิมพ์เล็กก็ตาม คือโลหะทรงคุณค่า 3 ชนิด ประกอบด้วย เนื้อทองคำที่มีความบริสุทธิ์ เนื้อนากที่ผสมทองคำ และเนื้อเงินบริสุทธิ์ ซึ่งแม้แต่โลหะที่นำมาประกอบการหล่อพระ ยังคงพิถีพิถันในการเลือกวัสดุ ทุกๆ อย่างมาเป็นอย่างดี เพื่อให้คงทน และมีคุณภาพสูง กับผู้ที่ได้บูชาพระองค์ไปไว้ครอบครอง เพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิต