จากกรณีคุณปู่วัย 71 ปี ย่านเขตตลิ่งชัน กทม. ใช้ฟันเปิดฝาจีบน้ำอัดลม โซดา มาตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงปัจจุบัน ยังระบุอีกว่าฟันยังอยู่ครบ ไม่หักแม้แต่ซี่เดียวไม่โยกไม่คลอน ใช้ขี้เถ้าแปรงฟัน เคี้ยวและอมเกลือเม็ดวันละ 2 ครั้ง ไม่เคยป่วย รับประทานผัก ปลา เลี่ยงจำพวกสัตว์ใหญ่ และย้ำว่าเป็นความสามารถเฉพาะตัว
ทันตแพทย์สุธา เจียรมณีโชติชัย ผู้อำนวยการสำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวอาจเป็นความสามารถเฉพาะตัวของคุณปู่คนดังกล่าว ไม่ควรลอกเลียนแบบ ข้อเท็จจริงแล้วฟันแท้ของมนุษย์เรานั้นจะอยู่จนสิ้นอายุขัย ไม่หลุดง่าย เนื่องจากฟันแท้มีลักษณะคล้ายแท่งคริสตัล เนื้อฟัน และผิวฟันข้างนอกเคลือบด้วยแคลเซียม มีความแข็งแรงใกล้เคียงกับเพชร แต่จะมีโอกาสหักได้เฉพาะในแนวเฉียง
โดยเฉพาะการใช้ฟันผิดหน้าที่ใน ตำแหน่งนั้นบ่อยครั้ง แทนที่จะใช้บดเคี้ยวอาหาร หากกลับนำไปใช้ทำอย่างอื่น เช่น ใช้ฟันเปิดฝาจีบขวดนํ้าอัดลม ขวดโซดา ช่างก่อสร้างใช้ฟันคาบตะปู ช่างทำผมสตรีใช้ฟันง้างกิ๊บที่เป็นโลหะหนีบผม หรือการใช้ฟันขบเมล็ดมะขามคั่ว เป็นต้น พฤติกรรมดังกล่าว มีอันตรายต่อฟันแท้ จะมีโอกาสทำให้ฟันบิ่น ฟันแตก ฟันหัก หรือฟันสึกได้ และเมื่อฟันแตก แล้วทำให้เสียวฟันและปวดมาก โดยหากรอยแตกบิ่นถึงชั้นเนื้อฟันหรือโพรงประสาทฟัน การรักษาจะยุ่งยาก อาจจะต้องถอนฟันซี่นั้นออกไป
“นอกจากนั้นการใช้ฟันเปิดฝาขวดหรือใช้ ผิดหน้าที่ จะมีผลต่อขากรรไกร และข้อต่อขากรรไกร อาจทำให้หลวมหรือเกิดอาการขากรรไกรค้าง ทำให้เกิดปัญหาในการเคี้ยวอาหารได้ เพื่อสุขภาพของฟันแท้จะได้อยู่กับเราไปอีกนาน ควรหลีกเลี่ยงและเลิกนิสัยดังกล่าว พึงตระหนักว่าฟันคนเรามีไว้บดเคี้ยวอาหารเท่านั้น ไม่ควรใช้ฟันทำหน้าที่อื่นจะส่งผลให้มีปัญหาในการคบเคี้ยวอาหาร และการใช้ชีวิตประจำวัน การเปิดขวดควรใช้ที่เปิดขวดโดยเฉพาะจะดีกว่า”
เนื้อหาโดย : นสพ.มติชน
Credit : http://health.sanook.com/