ณ เวลานี้เป็นเวลาที่ดีที่เราจะเริ่มเดินทางเรียนรู้กันกันต่อ การเรียนรุ้ในแง่มุมใหม่ๆ เป็นเรื่องที่น่าท้าทายใช่ไหมค่ะ ที่จริงแล้ว…ตลอดเวลาสิ่งเดียวที่แน่นอนในชีวิตของเราคือ “การเปลี่ยนแปลง” คนเรานั้นเปลี่ยนแปลงตนเองทุกวินาทีตั้งแต่เกิด ซึ่งดำเนินการโดยธรรมชาติ
ตอนนี้นะครับยังชวนสำรวจชีวิตวัยเด็กของเรากันค่ะ > ตั้งแต่เกิดมาคำแรกๆ ที่เราพูดได้คือคำไหนกันบ้าง เราเรียกพ่อหรือแม่ได้ก่อนกัน คำแรกที่เราพูดได้คืออะไร เคนได้ยินมามา หรือ หม่ำหม่ำ ชักไม่แน่ใจ เราเริ่มอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น เราเริ่มคลาน เริ่มตั้งไข่ เริ่มทำท่าโก้งโค้งยืดตัวหดตัว และเริ่มหาอะไรเกาะเพื่อที่จะยืนเองตามลำพัง ลองแล้งลองอีก เรียนรู้จนกว่าจะเจอวิถีในรูปแบบของตนเอง และมีก้าวๆเล็ก ทีละก้าวมากพอที่จะเดินไปได้อีกไกล
ครั้งหนึ่งผู้เขียนเคยไปที่โรงพยาบาล> เห็นเด็กน้อยกำลังหัดเดิน ใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปตัวเดียว ซึ่งได้บทเรียนที่ดีมากๆ เด็กน้อยคนนั้นพยายามที่จะเดิน แม้จะล้มก็ลุกขึ้น แล้วก็ล้มแล้วล้มอีก นับครั้งไม่ถ้วน มองอยู่นานมากก็ไม่เห็นว่าเด็กน้อยจะมีท่าทีจะล้มเลิกความพยายามที่จะเดิน จนเราซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่ยืนดูอยู่เห็นภาพสะท้อนนั้นคิดว่าไม่ง่ายเลย กว่าจะเดินได้ จะว่าไปแล้วถ้าเอาหัวใจผู้ใหญ่ไปใส่อาจจะมีท้อบ้างก็ได้ หากในการทำอะไรอย่างแล้วล้มบ่อยขนาดนั้นเพราะผู้ใหญ่มักนำประสบการณ์ต่างๆ ในอดีตมาร่วมในการตัดสินใจที่จะทำหรือไม่ทำอะไร แต่เด็กน้อยนั้นแค่อยากเดินไปที่เป้าหมาย เช่น หาของเล่น หรือแค่อยากเดินไปหาเพื่ออะไรใหม่ๆ ให้ชีวิตตัวเอง โดยที่เค้าไม่นึกถึงอย่างอื่นเลย นอกจากเป้าหมาย เด็กคนนั้นไม่ท้อ ไม่ว่าจะล้มกี่ครั้งก็ยังอยากลุกขึ้นเดินใหม่เสมอ
ที่ผู้ใหญ่อย่างเราอาจจะกลัวบางอย่างนั้น> อาจเพราะบางครั้งตอนเราเป็นเด็กเป็นเล็กๆ ที่ผู้ใหญ่ที่อาจเป็นพ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูคนรอบข้างเราซึ่งปราถนาดีกับเรา ท่านมักห้าม ห้าม ห้าม เริ่มตั้งแต่ห้ามคลานไปทางนั้น ห้ามเดินทางนี้ ห้ามปีนเดี๋ยวตก ห้ามและอย่า เราเริ่มมีการสะสมความกลัว มาตั้งแต่ยังเด็กๆ เพียงแต่เนื้อเรื่องอาจเปลี่ยนไป เช้นกลัวไม่เป็นที่รัก กลัวทำงานไม่สำเร็จ เป็นต้นแล้วความกล้าหาญในการทำอะไรแบบเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ก็ค่อยๆ ถูกลดลงไป
ตอนเราเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ที่อาจเป็นพ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูคนรอบข้างเราซึ่งปรารถนาดีกับเราท่านมัก”ห้าม ห้าม ห้าม” พอเราโตขึ้นเรายังติด “ความกลัว” ที่เกินพอดีนั้นอยู่ในใจลึกๆ
ตอนเราเป็นเด็กเราเล่นสนุกแค่ไหน> เราสามารถมีความสุขได้กับสิ่งง่ายๆ ของเล่นเพียงน้อยชิ้น นั่งเล่นคนเดียวในสวน หลังบ้านได้อย่างสบายใจทั้งวัน ที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ ตอนเราเป็นเด็กเราหาความสุขได้ง่ายกว่าตอนโต ยิ่งเด็กมากเท่าไร เรายิ่งมีความสุขได้ด้วยตนเองเท่านั้น พอโตขึ้นในบางครั้งเรามีเงื่อนไขกับความสุขมากขึ้น เช่นรวยแล้วจะมีความสุข เมื่อได้ทำอย่างนี้แล้วจะมีความสุข ความสุขของเราขึ้นอยู่กับกับผู้อื่น ทั้งที่จริงๆ ความสุขมีอยู่แล้วภายในตัวเรา
ดังนั้น ประสบการณ์ความสุขก็เป็นสิ่งที่เราสามารถสร้างขึ้นเองภายใน
เพียงเราพอใจและยอมรับตนเอง ความสุขก็้้เกิดขึ้นทันที