10 น้ำหอมผู้ชายยอดนิยมปี 2015 ที่กำลังมาแรงในเวลานี้
ใครว่ามีแต่สาว ๆ เท่านั้นที่สนใจเรื่องของ น้ำหอม อยู่ฝ่ายเดียว เพราะความจริงแล้วผู้ชายอย่างเราก็ชอบหาน้ำหอมดี ๆ มาใช้เช่นเดียวกัน ซึ่งในวันนี้มีลิสต์รายชื่อน้ำหอมผู้ชายฮอตฮิตจากเว็บไซต์ highsnobiety 10 รุ่นมาแนะนำกันแล้วครับ
Acqua di Gio (Eau de Toilette)
ภาพจาก giorgioarmanibeauty-usa
หนึ่งในน้ำหอมยอดนิยมที่หนุ่ม ๆ หลายคนเลือกใช้เพิ่มความหอมให้กับกลิ่นกาย โดดเด่นด้วยกลิ่นท็อปโน้ตจากมะนาว, ส้มแมนดาริน, มะลิ และดอกส้ม ที่ให้กลิ่นหวานนิด ๆ ปนความสดชื่น ชนิดที่สาว ๆ ได้กลิ่นแล้วอยากอยู่ใกล้ ๆ เลยทีเดียว สนนราคาอยู่ที่ 82 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 2,700 บาท)
Kiehl’s Musk (Eau de Toilette)
ภาพจาก kiehls
ใครที่กำลังมองหาน้ำหอมที่ให้ความรู้สึกสดชื่นอยู่ละก็ น้ำหอมรุ่นนี้แหละคือคำตอบที่ใช่ ! ซึ่งคุณจะได้กลิ่นความหอมแบบครีม ๆ ตามมาด้วยความเปรี้ยวจากซิตรัส มะกรูด และดอกส้ม จากนั้นจะสัมผัสได้ถึงความสดชื่นปนกลิ่นหอมละมุนจากดอกกุหลาบและลิลลี่ วางจำหน่ายแล้วในราคา 42.50 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 1,415 บาท)
Terre d’Hermes (Eau de Toilette หรือ Perfume)
ภาพจาก hermes
กลิ่นหอม ๆ อันแสนจะเย้ายวนของน้ำหอมรุ่นนี้ มาจากส่วนผสมของไม้, น้ำแร่ รวมถึงมิดเดิลโน้ตของกลิ่นพริกไทยแบบอ่อน ๆ และส่วนประกอบอื่น ๆ ที่ช่วยให้ได้กลิ่นแนวอโรม่า วางขายแล้วในราคา 185 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 6,000 บาท)
COMMES des GARÇONS x Monocle Scent One: Hinoki (Eau de Toilette)
ภาพจาก comme-des-garcons-parfum
กลิ่นท็อปโน้ตที่เป็นเอกลักษณ์จากไวท์ซีดาร์ ผสานกับความหอมจากต้นไซปรัส, หญ้าแฝก และใบไทม์ จึงให้สัมผัสที่มีกลิ่นอายแบบธรรมชาติ สนนราคาจำหน่ายอยู่ที่ 114 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 3,745 บาท)
Acqua di Parma Colonia (Eau de Cologne)
ภาพจาก acquadiparma
นี่คือน้ำหอมที่ให้กลิ่นความสดชื่น ที่ผู้ชายทั่วโลกต่างยอมรับว่าหอมจริงอะไรจริง ! ด้วยส่วนผสมของผลไม้ซิตรัสนานาชนิด ผสานกับความหอมจากดอกไม้นานาพันธุ์ เช่น ลาเวนเดอร์และกุหลาบมอญ บวกกับกลิ่นของหญ้าแฝก, ไม้จันทน์ และพิมเสน วางขายแล้วในราคา 85 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 2,790 บาท)
Santa Maria Novella Patchouli (Eau de Cologne)
ภาพจาก santamarianovellausa
หนุ่ม ๆ คนไหนที่อยากได้น้ำหอมที่มีกลิ่นอายแบบในช่วงยุค ค.ศ. 1800-1900 แล้วละก็ น่าจะสนใจน้ำหอมตัวนี้อยู่ไม่น้อย ที่สำคัญความหอมของพืชนานาชนิดที่ผสมผสานรวมเข้าไว้ด้วยกัน ทำเอาหลายคนติดใจเลยทีเดียว สนนราคาจำหน่ายอยู่ที่ 125 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 4,105 บาท)
Le Labo Vetiver 46 (Eau de Parfum)
ภาพจาก lelabofragrances
กลิ่นน้ำหอมรุ่นนี้ สามารถดึงดูดคนรอบข้างให้เหลียวมามองได้ไม่ยาก อาจเกิดจากส่วนผสมของตะไคร้, โอลิบานัม, พริกไทย, ซีดาร์ และกำยาน ผสานกับกลิ่นของตะไคร้หอมเข้าไปด้วย จนออกมาเป็นน้ำหอมที่ถูกใจใครหลายคนได้ไม่ยาก วางขายแล้วในราคา 240 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 7,875 บาท)
Helmut Lang (Eau de Parfum)
ภาพจาก helmutlang
คุณผู้ชายที่ชอบน้ำหอมที่ให้ความสดชื่น ละมุนละไม และกลิ่นติดทนนาน นี่คืออีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง ด้วยส่วนผสมอย่าง โรสแมรี่, ส้ม, ซีดาร์, ไม้จันทน์ ผสานกับความหอมของวานิลลา ยิ่งทำให้น้ำหอมกลิ่นนี้เพอร์เฟคท์สุด ๆ วางขายแล้วในราคา 185 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 6,000 บาท)
Dior Homme Bois D’Argent (Perfume)
ภาพจาก dior
แม้ราคาจำหน่าย 225 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 7,385 บาท) อาจจะดูแพงไปสักหน่อยสำหรับน้ำหอมขวดหนึ่ง ทว่าถ้าคุณมีกำลังซื้อมากพอ เพื่อแลกกับน้ำหอมคุณภาพดี กลิ่นติดทน ฉีดทีทำเอาสาว ๆ เคลิ้ม เราว่าก็อาจจะคุ้มอยู่นะ
Creed Millesime Imperial (Eau de Parfum)
ภาพจาก creedboutique
กลิ่นหอมท็อปโน้ตอันโดดเด่นของน้ำหอมรุ่นนี้ มีส่วนผสมของเกลือทะเลและซิตรัส ผสานกับความหอมของใบมะกรูดและฟลอเรนตินไอรีส รวมทั้งกลิ่นไม้ จนได้ออกมาเป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นเย้ายวนใจมากที่สุดอีกกลิ่นที่หนุ่ม ๆ ยอมรับ วางจำหน่ายแล้วในราคา 350 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 11,490 บาท)
ต้องบอกว่าน้ำหอมทั้ง 10 รุ่นที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ล้วนแล้วแต่น่าสนใจมาก ๆ เลยทีเดียว แม้บางรุ่นราคาอาจสูงไปหน่อย ทว่าต้องยอมรับว่าหอมจริง ๆ !
**หมายเหตุ : ราคาของน้ำหอมอาจมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับการกำหนดราคาขแงทางร้านตัวแทนจำหน่าย ด้วย แนะนำให้ตรวจสอบราคาอีกครั้งครับ
Credit : http://men.kapook.com/
