รอยเตอร์/เอเอฟพี – น้ำมันดิบลอนดอน ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปีเมื่อวันจันทร์(15ก.ย.) หลังข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีน ก่อความกังวลทางอุปทาน ส่วนแนสแดคปรับลด จากแรงฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ทองคำปิดบวกแคบ จับตาการประชุมเฟด
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ ปิดที่ 92.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน วันสุดท้ายของวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 46 เซนต์ ปิดที่ 96.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันลอนดอน ตกอยู่ใต้แรงกดดันของรายงานข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่เผยแพร่ออกมาในช่วงสุดสัปดาห์ ที่พบว่าการเติบโตของการผลิตในภาคอุตสาหกรรมของจีนในเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 6.9 ถือเป็นอัตราน้อยที่สุดในรอบกว่า 5 ปี
ตัวเลขดังกล่าวได้เพิ่มเติมความกังวลต่อการเติบโตที่อ่อนแอของชาติเศรษฐกิจหมายเลข 2 ของโลกแห่งนี้ แม้ว่ารัฐบาลจีนจะใช้มาตรการกระตุ้นต่างๆนานาแล้วก็ตาม
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(15ก.ย.) ปิดผสมผสาน โดยแนสแดคขยับลงถึงกว่าร้อยละ 1 ตามรายงานที่ระมัดระวังต่อเทสลา มอเตอร์ส
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 43.63 จุด (0.26 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,031.14 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 1.41 จุด (0.07 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,984.13 จุด แนสแดค ลดลง 48.70 จุด (1.07 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,518.90 จุด
แม้มอร์แกน สแตนลีย์ บอกว่าในระยะยาวแล้วยังคงมั่นใจจ่อเทสลา แต่หุ้นของบริษัทแห่งนี้ก็ดิ่งลงมากกว่าที่ตลาดคาดหมายถึงร้อยละ 9.1 ส่วนหนึ่งเพราะกระบวนการต่างๆเกี่ยวกับรถไฟไฟฟ้าของเทสลามมีความคืบหน้าอย่างล่าช้า
ขณะเดียวกันหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอื่นๆ ก็ปิดลบเช่นกัน อาทิอะเมซอน ลดลงร้อยละ 2.2 เฟซบู๊ค ลดลงร้อยละ 3.7 และเน็คฟลิกซ์ ลดลงร้อยละ 4.0 ด้วยนักวิเคราะห์มองว่านักลงทุนอาจขายระดมทุนไปซื้อหุ้นของอาลีบาลา สื่อออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของจีน ซึ่งได้รับคาดหมายว่าจะเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชนในครั้งแรก (IPO)ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กในสัปดาห์นี้
ส่วนราคาทองคำวานนี้(15ก.ย.) ขยับขึ้นเล็กน้อย ฟื้นตัวจากการปิดลบมา 5 วันติด แต่นักลงทุนยังจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันอังคาร(16ก.ย.)นี้ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 3.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,235.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์
Credit : ASTVผู้จัดการออนไลน์