ฝุ่นละออง PM 2.5 มาจากไหน?
ผศ.พญ.นฤชา จิรกาลวสาน หน่วยโรคระบบหายใจและเวชบำบัดวิกฤต ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า สภาพอากาศที่เกิดขึ้นในกรุงเทพและปริมณฑลนี้ มาจากหลายสาเหตุ เช่น การเผาป่า การเผาขยะ การเผาให้ที่โล่ง การเพิ่มพื้นที่ของโรงงานอุตสาหกรรม การเพิ่มขึ้นของจำนวนรถยนต์ แม้แต่การประกอบอาหารที่ใช้เตาถ่านก็ทำให้ฝุ่นละอองเหล่านี้เพิ่มขึ้น ประกอบกับสภาพอากาศในปีนี้ค่อนข้างนิ่ง จึงทำให้ฝุ่นอยู่ในที่แคบๆ ไม่มีการไหลเวียนระบายไปที่อื่น จึงทำให้ค่าฝุ่นละอองที่เกินมาตรฐานในปีนี้เกิดขึ้นเร็วและอยู่กับเรานานกว่าปีก่อนๆ
อันตรายจากฝุ่นละออง PM 2.5
เนื่องจาก PM 2.5 เป็นฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเส้นผม (50-70 ไมครอน) หรืออนุภาคเล็กกว่าเส้นผมถึง 20 เท่า และการที่มันเล็กมากทำให้เรามีโอกาสที่จะหายใจเอาฝุ่นละอองนี้ไปเข้าไปสู่หลอดลมได้ จนอาจเป็นสาเหตุ หรือเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการของโรคอันตรายในระบบทางเดินหายใจ และอวัยวะที่เกี่ยวข้องต่างๆ เช่น
- ภูมิแพ้ จมูกอักเสบ
- หอบหืด
- ถุงลมโป่งพอง แม้ไม่สูบบุหรี่
- หลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง
- มะเร็งปอด
- เส้นเลือดหัวใจ / กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
ระยะเวลาในการเป็นโรคอันตรายต่างๆ จากการสูดหายใจเอาฝุ่นละอองเหล่านี้เข้าไป ขึ้นอยู่กับปริมาณที่แต่ละคนสุดเข้าไปในร่างกาย พื้นที่ที่แต่ละคนอยู่ ภูมิต้านทานโรคของแต่ละคน และปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย
กลุ่มเสี่ยงอันตรายจากฝุ่นละออง PM 2.5
กลุ่มที่มีความเสี่ยงได้รับอันตรายจากฝุ่นละออง PM 2.5 มากกว่าคนปกติทั่วไป ได้แก่
- เด็กเล็ก และผู้สูงอายุ ซึ่งเมื่อได้รับฝุ่นละอองมากๆ ก็จะทำให้เกิดการระคายเคืองได้
- กลุ่มผู้ป่วยที่เป็นโรคหืด โรคปอด โรคถุงลมอักเสบ และโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน
วิธีป้องกันฝุ่นละออง PM 2.5
- หลีกเลี่ยงการออกไปข้างนอกบ้านในเวลาที่มีประกาศเตือนฝุ่นละออง (สามารถเช็กได้ผ่านแอปพลิเคชั่น AirVisual >> แนะนำ App (ฟรี) เช็กค่าฝุ่นละอองที่มากกว่า PM 2.5 ทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล)
- หากมีความจำเป็นต้องออกไปข้างนอกในช่วงที่มีการเตือนถึงจำนวนฝุ่นละอองมากกว่าปกติ ควรสวมหน้ากาก N95 ทุกครั้ง เพราะหน้ากากอนามัยธรรมดาไม่สามารถกรองฝุ่นละออง PM 2.5 ได้ (>> หน้ากาก N95 ช่วยชีวิตคนกรุงจากฝุ่นละออง PM 2.5)
- หากไม่มีความจำเป็นที่ต้องออกไปด้านนอก ควรอยู่ภายในบ้าน หรือภายในอาคาร ปิดประตูหน้าต่างให้สนิท อุดรูรั่วตามช่องต่างๆ ด้วยผ้า หรือผ้าชุบน้ำ รวมถึงควรหมั่นทำความสะอาดมุ้งลวดให้สะอาด
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกบ้าน เช่น ออกกำลังกาย ทำงานหนักๆ
- ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และเด็กเล็ก ต้องดูแลรักษาสุขภาพเป็นพิเศษ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับอากาศที่มีฝุ่นละออง
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ทำอาหารที่มีควันเยอะโดยไม่มีเครื่องดูดควัน ใช้รถยนต์ที่มีควันจากท่อไอเสีย
- ไม่เผาขยะ โดยเฉพาะขยะที่มีสารพิษ เช่น พลาสติก ยางรถยนต์ รวมทั้งขยะทั่วไป
- ดื่มน้ำมากๆ และงดสูบบุหรี่ในช่วงที่พบฝุ่นละอองในอากาศมาก