ประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ ออลลองด์ แห่งฝรั่งเศส (ภาพ: REUTERS)
ประธานาธิบดีฝรั่งเศส กร้าว ประกาศประเทศกำลังอยู่ในภาวะสงคราม เรียกร้องให้รัฐสภาอนุมัติแก้กฎหมาย ขยายขอบเขตการใช้สถานการณ์ฉุกเฉิน รวมทั้งถล่มกลุ่มไอซิสหนักขึ้น…
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ แห่งประเทศฝรั่งเศส ประกาศเมื่อวันจันทร์ (16 พ.ย.) ว่า ฝรั่งเศสกำลังอยู่ในภาวะสงคราม และเสนอให้มีการแก้กฎหมายใหม่ รวมทั้งเพิ่มค่าใช้จ่ายในส่วนของการรักษาความปลอดภัยสาธารณะ เพื่อตอบโต้เหตุก่อการร้าย ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 พ.ย.
นายออลลองด์ กล่าวระหว่างการประชุมร่วมระหว่างสภาล่างและสภาสูงเมื่อวันจันทร์ โดยเขาเรียกร้องให้เหล่าสมาชิกสภาเห็นชอบขยายการใช้กฎสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งประกาศใช้หลังเหตุโจมตีเมื่อวันศุกร์ออกไปอีก 3 เดือน รวมทั้งขอให้เห็นชอบกฎหมายที่มอบอำนาจให้รัฐ สามารถเพิกถอนสถานะความเป็นพลเรือนของผู้ก่อการร้ายที่เกิดในฝรั่งเศส, อนุมัติแผนการทำให้การเนรเทศผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายได้ง่ายขึ้น เขายังเสนอให้แต่งตั้งตำรวจประจำการเพิ่มอีก 5,000 นาย ภายใน 2 ปีข้างหน้า และจะไม่ตัดลดงบประมาณด้านกลาโหมของประเทศไปจนถึงปี 2019
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีออลลองด์ ระบุด้วยว่า ฝรั่งเศสจะเพิ่มความรุนแรงในการโจมตีกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอซิส) และเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจัดการประชุมเพื่อหารือเรื่องภัยคุกคามจากกลุ่มไอซิสที่มีต่อโลก “เราไม่สามารถทำสงครามทางอารยธรรม เพราะนักฆ่าเหล่านี้ไม่มีอารยธรรมใดๆ เรากำลังอยู่ในภาวะสงครามต่อต้านการก่อการร้าย, ลัทธิญิฮาด ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อโลกทั้งใบ” นายออลลองด์ กล่าว และเสริมว่า “การก่อการร้ายไม่สามารถทำลายฝรั่งเศส เพราะฝรั่งเศสจะทำลายพวกมัน”
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสยังคงสืบสวนหาเบาะแสเกี่ยวกับคนร้ายผู้ก่อเหตุโจมตีหลายจุดในกรุงปารีส เมื่อวันที่ 13 พ.ย. ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 129 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 352 คน โดยตำรวจดำเนินการบุกตรวจค้นเป้าหมายทั่วประเทศกว่า 150 ครั้ง นับตั้งแต่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อวันศุกร์
นาย แบร์นาร์ด กาเซอเนิฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศส เปิดเผยในวันจันทร์ว่า ตำรวจสามารถตรวจยึดของกลางได้มากมาย รวมทั้งเครื่องยิงจรวดอาร์พีจี และเสื้อเกราะกันกระสุน เขายังได้สั่งกักบริเวณประชาชน 104 คน นับตั้งแต่เกิดเหตุ
Credit : http://www.thairath.co.th/
