เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอรีน พระราม 9 สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดงานเลี้ยงฉลองความสําเร็จให้กับทีมฟุตบอลชุดซีเกมส์ ที่สามารถคว้าเหรียญทอง พร้อมมอบเงินอัดฉีดจากเกมรอบแรก ชนะมาเลเซีย 1-0 และรองรอบชนะเลิศชนะอินโดนีเซีย 5-0 นัดละ 1 ล้านบาท และโบนัสการคว้าเหรียญทองอีก10 ล้านบาทรวม 12 ล้านบาท
ในงานมีนายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ ”ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย โค้ชโชคทวี พรหมรัตน์ หัวหน้าโค้ชชุดแชมป์ซีเกมส์ และแขกวีไอพีในวงกาฟุตบอลอีกหลายราย สื่อมวลชนอย่างหนาตา
บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างครึกคลื้น โดยนายจิรศักดิ์ รอดประจง ตัวแทนของโรงแรมโกลเด้น ทิวลิปฯมอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีกับนักแตะและทีมงานทุกคนที่ประสบความสำเร็จในครั้งนี้
นายวรวีร์ เปิดเผย ว่า จากความสำเร็จครั้งนื้ถือว่าทุกคนเป็นวีรบุรุษลูกหนัง สมาคมฟุตบอลพร้อมที่จะมอบเป็นรางวัลจากความสำเร็จของน้องๆ วันนี้ถือว่าเราก้าวข้ามระดับอาเซียนไปแล้ว ซึ่งเราได้แสดงให้เห็นว่าฟอร์มการเล่นเราก้าวข้ามเพื่อนบ้านไปอยู่ในระดับเอเชียแล้ว จากควาสำเร็จนี้ทางสมาคมฟุตบอลจึงมอบเงินให้ทั้งหมดจากการอัดฉีดจำนวน 12 ล้านบาท หลังจากนี้ทีมชาติไทยก็ยังมีงานฟุตบอบลโลกรอบคัดเลือก ที่เราต้องผ่าน 12 ทีมให้ได้ รออยู่ คิดว่า เราก็มีโอกาสมาก เพราะมี 6 แต้มหากเก็บชัยชนะเหนือ อิรัก ในบ้านเราได้วันที่ 8 ก.ย. โอกาสก็จะเปิดกว้างแน่นอน
“ส่วนทีมน้องของเราที่คว้าเหรียญทองซีเกมส์ ก็ผ่านเข้ารอบสุดท้ายคัดลือกไปเล่นโอลิมปิก ในรายการชิงแชมป์เอเชีย เดือนมกราคมปีหน้า ที่ประเทศกาตาร์ ซึ่งหลายคนในชุดซีเกมส์ก็อยุ่ในชุดชิงแชมป์เอเชีย ที่ถือว่าเราก็มีลุ้นเนื่องจากในเอเชียนเกมส์ที่กำหนดอายุไม่เกิน 23 ปีเหมือนกันเราเข้าถึงรอบ 4 ทีมสุดท้าย แต่คัดเลือกไปโอลิมปิกคัดเอา 3 ทีมดังนั้นอะไรก็เกิดขึ้นได้”
นายวรวีร์ กล่าวต่อว่า อาทิตย์หน้าจะเชิญ”ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอน พร้อมคณะทำงานมาหารือกันในการเตรียมงานทั้งสองทัวร์นาเม้นต์ใหญ่นี้ และตอนนี้ก็ได้ติดต่อทีมชาติฟิลิปปินส์ ที่เล่นรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกเหมือนเราและชนะบาห์เรน ทีมตะวันออกกลางมาเราก็จะอุ่นเครื่องกับเขาเพื่อศึกษาเกมการเล่น โดยจะอุ่นกับเครื่องกันวันที่ 3 ก.ย.ก่อนที่จะเตะกับอิรักในบ้านเราวันที่ 8 ก.ย.
ด้าน”ซิโก้ “เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เปิดเผยแผนการทำงานในการเตรียมทีมชุดปรีโอลิมปิก ที่จะรับช่วงต่อจากชุดซีเกมส์ว่า ตามแนวทางการทำงานของคณะทีมงานสตาฟโค้ชของตนนั้นมีแนวทางในการทำงานลักษณะเดียวกันทีมซีเกมส์ คือการขอความร่วมมือจากสโมสรต่างๆที่มีนักเตะฝีเทาดีและทีมชาติจำเป็นต้องใข้งานปล่อยตัวมาอุ่นเครื่องฝึกซ้อมกันเดือนละครั้ง อย่างไรก็จะมีการหารือกับทาง”บังยี” นายกสมาคมฟุตบอลให้ชัดเจนอีกครั้ง
ส่วนโค้ชโชคทวี พรหมรัตน์ กุนซือซีเหรียญทองซีเกมส์ เผยว่าต้องขอบคุณทาง”ซิโก้” และทาง”บังยี”ที่ให้โอกาสตนพิสูจน์ความสามารถรวมถึงนกัเตะและทีมงานทุกคนที่ช่วยกันทำงนหนักแบกรับความกดดันแต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้และสามารถสร้างความสุขให้กับแฟนบอลชาวไทยทุกคน ส่วนตนเองนั้นหากว่าจะต้องรับงานคุมทีมชาติอีกไม่ว่าชุดใดก็พร้อม หากเป็นการทำเพื่อชาติ แต่ก็ต้องอยู่ที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนและบอร์ดบริหารของสมาคมฟุตบอลด้วย
ขณะเดียวกันในการเดินสายขอบคุณและรับโบนัสอัดฉีดในวันเดียวกัน ทางทีมชาติไทยก็ได้รับโบนัสเพิ่มเติมมาอีก 2 ล้านจากเดิม 22.6 ล้านรวมเป็น 24.6 ล้าบาทจากทางบริษัทสามารถคอร์ปเปอเรชั่นจำกัด มหาชน โดยนายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ มอบให้กับนักเตะไปแบ่งกัน 2 ล้านบาท พร้อมมอบโทรศัพท์ให้นักเตะและทีมงานอีกคนละเครื่อง
สำหรับทัพนักเตะทีมชาติชาติเบ็ดเสร็จรับทรัพย์ทั้งสิน 24.6 ล้านบาท จากเงินกองทุนพัฒนากีฬาชาติ 4 ล้าน, โตโยต้า 2 ล้าน, สมาคมฟุตบอลฯ 12 ล้าน, ไทยเบฟเวอเรจฯ 2 ล้าน, ซิตี้แบงค์ 5 แสน, บริษัทสยามสปอร์ตฯ 2 ล้าน บ.สามารถฯ 2 ล้าน แลฃะ ช่อง 7 อีก 1แสนบาท และเมื่อเฉลี่ยกันแล้วนักเตะ 20 คนพร้อมทีมงาน สตาฟโคชอีก 7 รายจะได้รับโบนัสคนละประมาณเฉลี่ย 7-8 แสนบาท ก่อนที่จะปล่อยนักเตะกลับไปรับใช้สโมสรต้นสังกัดในสุดสัปดาห์นี้
Credit : http://www.khaosod.co.th/
