นำเสนอเมนูฝีพระหัตถ์จากครัวสระปทุมผ่านจออินเตอร์แอคทีฟ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯเปิดศูนย์การเรียนรู้อาหารไทย (Thai Food Heritage) ศูนย์กลางเรียนรู้เฉพาะทางด้านอาหารแห่งแรกของประเทศไทย ที่จะเป็นแหล่งเผยแพร่และสนับสนุนองค์ความรู้ด้านอาหารไทย สู่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารไทยและบุคคลทั่วไป โดยมี รมว.อุตสาหกรรม จักรมณฑ์ ผาสุกวนิช และอรรชกา สีบุญเรือง ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมคณะผู้บริหารสถาบันอาหาร เฝ้ารับเสด็จฯ ที่สถาบันอาหาร ซ.อรุณอมรินทร์ 36 (เชิงสะพานพระราม 8) เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ภายในศูนย์การเรียนรู้อาหารไทย ได้จัดนิทรรศการสะท้อนถึงแนวคิดหลักคือ ภูมิปัญญาอาหารไทย เป็นมรดกแห่งการสร้างสรรค์นวัตกรรม ซึ่งแบ่งเป็น 3 โซน ได้แก่ โซนที่ 1 สุวรรณภูมิดินแดนอุดมสมบูรณ์ หรือ The Golden Land นำเสนอความอุดมสมบูรณ์ของประเทศไทย โครงการพระราชดำริที่เกี่ยวเนื่องในภาคเกษตรและอาหาร และการส่งออกอาหารไปยังภูมิภาคต่างๆ ด้วยเทคนิควีดิโอแมพปิ้ง โซนที่ 2 ครบเครื่องครัวไทย หรือ Delight to THAI Taste นำเสนอเมนูฝีพระหัตถ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ และสมเด็จย่า ในมุมพระอัจฉริยภาพแห่งความอร่อยด้วยรูปแบบหนังสือขนาดใหญ่ พร้อมจออินเตอร์แอคทีฟ ซึ่งผู้ชมสามารถเลือกชมเมนูอาหารจากครัวสระปทุมได้ด้วยตนเอง โดยทรงมีรับสั่งถึงการจัดทำเมนูอาหารจากครัวสระปทุมว่า ทรงพยายามใช้คำเรียบง่ายในเมนูต่างๆ เพื่อให้คนเข้าใจ สามารถทำตามได้
โอกาสนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงสาธิตวิธีการปรุงอาหารตามแบบวิถีไทย ซึ่งมีอัตลักษณ์เฉพาะตัว บนแอพพลิเคชั่นเกมทำอาหาร โดยทรงเลือกปรุงแกงเขียวหวาน ที่มี 13 ขั้นตอน จากนั้นทอดพระเนตรวีดิทัศน์ครัวไทยสู่ครัวโลก และเมนูอาหารไทย 4 ภาคที่นำมาจัดแสดงในรูปแบบอาหารฟิวชั่น ณ บริเวณร้านอาหารบ้านไทย และโซนที่ 3 นวัตกรรมอาหารไทยสู่ครัวโลก หรือ The Food of the World ทอดพระเนตรการนำเสนอข้อมูลการส่งออกอาหารไทยไปยังภูมิภาคต่างๆ ของโลก อาทิ แยมลูกหยี, เครื่องดื่มทุเรียนชงพร้อมดื่ม, แกงบวดเผือกในถ้วยพลาสติกพร้อมรับประทาน, นมเปรี้ยวกรอบ ฯลฯ และตัวอย่างผลิตภัณฑ์นวัตกรรมอาหารไทย อย่างสนพระทัย
สำหรับ “ศูนย์การเรียนรู้อาหารไทย (Thai Food Heritage)” นั้น เกิดจากแนวคิดริเริ่มและจัดตั้งขึ้นโดยสถาบันอาหาร และองค์กรเครือข่ายกระทรวงอุตสาหกรรม นับเป็นพื้นที่การเรียนรู้สมัยใหม่เฉพาะทาง เผยแพร่ข้อมูลด้านอาหารไทยในเชิงศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาพื้นบ้าน และในเชิงอุตสาหกรรมการผลิต การค้า นำเข้า-ส่งออก การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ การเผยแพร่นวัตกรรมการผลิต ซึ่งเป็นประโยชน์ในการชี้นำทิศทาง โอกาส และการสร้างสรรค์ ร่วมกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยี รวมถึงเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหาร ตลอดจนเพื่อกระตุ้นให้คนไทยเกิดความรัก โดยการจัดแสดงนิทรรศการ สร้างสรรค์กิจกรรม พัฒนากระบวนการเรียนรู้ และการบริหารจัดการในรูปแบบพื้นที่เรียนรู้สมัยใหม่ ด้วยเทคนิคการนำเสนอที่ทันสมัย ซึ่งเปิดให้ผู้สนใจเข้าชมได้แล้ว.
Credit : www.thairath.co.th
