อย. เตือน เครื่องสำอาง มีคำโฆษณาแบบนี้ อย่าซื้อใช้ โม้ทั้งเพ!

 

อย. เตือนผู้บริโภค อย่าหลงเชื่อคําโฆษณา เครื่องสําอาง ที่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง ช่วยทําให้ ผิวขาว ขยายขนาดทรวงอก ป้องกันผมหลุดร่วง ฯลฯ หากผู้บริโภคซื้อมาใช้ อาจทําให้เสียเงินฟรี และเสี่ยงต่อการได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีการลักลอบใส่สารห้ามใช้ที่เป็นอันตรายBlister pack of pills. Remedy.

ภก. ประพนธ์อางตระกูลรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และในฐานะโฆษก อย. เปิดเผยว่าสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้มีการตรวจสอบเฝ้าระวังโฆษณาของผลิตภัณฑ์ สุขภาพทางสื่อต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยศูนย์จัดการเรื่องร้องเรียนและปราบปรามการกระทําผิดกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ

ปัจจุบันพบการ โฆษณาขายผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง ที่มีการอวดอ้างสรรพคุณเกินจริงจํานวนมาก ผ่านทางสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น สื่อวิทยุ โทรทัศน์สิ่งพิมพ์ และโดยเฉพาะสื่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นสื่อที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยพบว่า มีการอวดอ้างสรรพคุณของ เครื่องสําอาง บํารุงผิว

Set of different cosmetics cream

เช่น “… ช่วยให้ผิวขาวทันใจ หน้าใสทันตา เปลี่ยนจากผิวดําเป็นผิวขาว เห็นผล 100%” “… ช่วยปรับผิวขาวเร่งด่วนได้ใน 2 สัปดาห์ เห็นผลจริง พิสูจน์เลย” เครื่องสําอาง บํารุงผิวทรวงอก เช่น “… ใช้แล้วช่วยขยายทรวงอกให้ทรวงอกอวบอิ่ม” เครื่องสําอางบํารุงเส้นผมและหนังศีรษะ เช่น “… ป้องกันผมหลุดร่วง กระตุ้นการสร้างเส้นผมใหม่”

ซึ่งข้อความโฆษณาเหล่านี้เป็นข้อความที่โอ้อวด เกินจริง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อผู้บริโภค เนื่องจากผลิตภัณฑ์เครื่องสําอาง เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีจุดประสงค์ เพื่อใช้ทําความสะอาดและเพิ่มความสวยงามเท่านั้น ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของร่างกาย ไม่สามารถทําให้สัดส่วนของรูปหน้า หรือรูปร่างเปลี่ยนแปลงได้ ไม่สามารถยับยั้งหรือเปลี่ยนแปลงการผลิต เม็ดสีเมลานิน จึงไม่สามารถทําให้สีผิวเกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่สามารถลบริ้วรอยเหี่ยวย่น ไม่สามารถ กระตุ้นให้ทรวงอกขยายขนาด หรือไม่สามารถทําให้ผมงอกขึ้นใหมได่ ้แต่อย่างใด

ทั้งนี้หากผู้ประกอบการธุรกิจ เครื่องสำอาง มีการโฆษณาโดยใช้ข้อความที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ในสาระสําคัญเกี่ยวกับเครื่องสําอางจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 โดยมี บทลงโทษจําคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ส่วนสื่อโฆษณาหรือ ผู้ประกอบธุรกิจโฆษณา จะมีบทลงโทษจําคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท หากพบ การกระทําความผิดซ้ําเป็นครั้งที่ 2 หรือครั้งต่อไป จะถูกส่งดําเนินคดีทางศาล

รองเลขาธิการฯ อย. กล่าวในตอนท้ายว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีมีความก้าวหน้าจึงมีช่องทางในการโฆษณา เครื่องสําอาง เพิ่มขึ้น เช่น การขายเครื่องสําอางทางทีวีดาวเทียม และการขายเครื่องสําอางผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น ทางเฟสบุค อินสตาแกรม ทําให้ผู้ซื้อเข้าถึงได้ง่าย มีทั้งการโฆษณาที่อ้างว่า เป็นรีวิวของผู้ใช้ ว่าใช้ได้ผลดี สามารถมีผลต่อโครงสร้างของร่างกายดังกล่าว

Cosmetics

ดังนั้นก่อนการตัดสินใจซื้อ เครื่องสําอาง ขอให้ซื้อจากร้านที่มีหลักแหล่งเชื่อถือได้ และอ่านฉลากเครื่องสําอางให้ถี่ถ้วน สังเกตเลขที่ใบรับแจ้ง 10 หลัก และต้องมีช่ือที่ตั้งของผู้ผลิตหรือผู้นําเข้าแสดงอยู่อย่างชัดเจน ถึงแม้จะเป็นเครื่องสําอางที่นําเข้า มาจากต่างประเทศก็ต้องมีฉลากภาษาไทย และ ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบเลขที่ใบรับแจ้ง 10 หลัก ของเครื่องสําอางได้ทางเว็บไซต์ อย. www.fda.moph.go.th หรือที่ Oryor Smart Application ว่าเลขที่ ใบรับแจ้งที่ฉลากเครื่องสําอางตรงกับฐานข้อมูลของ อย. หรือไม่ อย่าหลงเชื่อคําโฆษณาที่โอ้อวดสรรพคุณ เกินจริง ยิ่งถ้าข้อมูลบนฉลากไม่ครบถ้วนก็ไม่ควรซื้อ เพราะอาจทําให้เสียเงินฟรีและเสี่ยงต่อการได้รับ ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีคุณภาพมาตรฐาน

Credit : http://health.mthai.com/

About admin

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *