ภาพประกอบจาก ERIC FEFERBERG / AFP
ผู้นำจากหลายชาติทั่วโลกร่วมเดินขบวนต้านก่อการร้ายกับคนกว่า 3.7 ล้าน ณ กรุงปารีส เผยเป็นการรวมตัวเดินขบวนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส
เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2558 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ประชาชนไม่ต่ำกว่า 3.7 ล้านคน รวมถึงผู้นำจากหลายชาติทั่วโลก ร่วมเดินขบวนต้านก่อการร้ายและไว้อาลัยเหยื่อเหตุก่อการร้ายในปารีส ทางการฝรั่งเศสเผยนับว่าเป็นการรวมตัวของประชาชนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสเลยทีเดียว
สำหรับการเดินขบวนต้านก่อการร้ายและไว้อาลัยผู้เสียชีวิตดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา ผู้นำจากชาติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลล็องด์ แห่งฝรั่งเศส, นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน แห่งอังกฤษ, นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี, นายกรัฐมนตรีมาเรียโน ราจอย แห่งสเปน, มะห์มูด อับบาส ผู้นำดินแดนปาเลสไตน์ และนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล เป็นต้น ได้เข้าร่วมเดินขบวนกับชาวฝรั่งเศสที่มารวมตัวกันจากทั่วสารทิศจนทำให้การชุมนุมเพื่อไว้อาลัยครั้งนี้ยิ่งใหญ่เกิดคาด มีประชาชนไม่ต่ำกว่า 3.7 ล้านคนเลยทีเดียว
ภาพประกอบจาก PHILIPPE WOJAZER / POOL / AFP
การผนึกกำลังรวมเป็นหนึ่งเดียวครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการต่อต้านการก่อการร้ายและการร่วมไว้อาลัยให้กับเหยื่อก่อการร้ายทั้ง 17 ศพ จาก 3 เหตุก่อการร้ายที่เกิดขึ้นตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว ยังเป็นการแสดงความสามัคคีและเป็นหนึ่งเดียว อันเป็นอาวุธที่ดีที่สุดในการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้าย ดังที่ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลล็องด์ ได้กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่หนึ่งในประชาชนผู้เข้าร่วมการเดินขบวนครั้งใหญ่นี้ ได้เปิดเผยผ่านนักข่าวว่า ชาวฝรั่งจะต้องไม่หวาดกลัวต่อกลุ่มก่อการร้าย กลุ่มก่อการร้ายจะต้องไม่มีทางได้รับชัยชนะ
ทั้งนี้ สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 17 ราย เสียชีวิตจากเหตุก่อการร้ายในปารีส 3 สถานที่ 3 วาระ ได้แก่ เหตุมือปืนยิงถล่มสำนักงานหนังสือพิมพ์ชาร์ลี เอ็บโด เสียชีวิต 12 ราย เมื่อวันที่ 7 มกราคม, มือปืนจ่อยิงตำรวจหญิงบริเวณใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดินในปารีส เสียชีวิต 1 ราย วันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ส่วนผู้เสียชีวิตอีก 4 ราย เสียชีวิตระหว่างถูกมือปืนจับเป็นตัวประกันพร้อมด้วยผู้คนอีกหลายสิบ ภายในซูเปอร์มาร์เกตในปารีส โดยผู้ก่อการร้ายทั้ง 3 เหตุการณ์นั้น เป็นเครือข่ายเดียวกัน
ภาพประกอบจาก DOMINIQUE FAGET / AFP
ภาพประกอบจาก FRED TANNEAU / AFP
Credit : http://hilight.kapook.com/