สาวๆ คนไหนที่อยากเลี้ยงสัตว์แต่เนื้อที่หรือสถานที่จำกัดหนูแกสบี้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คุณสาวๆ สามารถเลี้ยงได้ก่อนอื่นเราต้องมาทำความรู้จักกับเจ้าหนูแกสบี้กันก่อนนะ
หนูแกสบี้ ชื่อนี้คุณสาวๆหลายคนคงเคยได้ยินแต่ก็อาจจะยังไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเจ้าหนูแกสบี้นั้นต้องเลี้ยงยัง ดูแลยากไหม วันนี้เรามีเรื่องราวสำหรับสาวๆ มือใหม่ที่อยากมีสัตว์เลี้ยงตัวน้อยๆ เราลองมาดูสายพันธ์ของเจ้าหนูเเกสบี้กันก่อนนะคะ
สายพันธุ์ขนยาว
– PERUVIAN ขนจะเหยียดตรงแนวของขนจะย้อนจากท้ายลำตัวขึ้นมาทางศรีษะซึ่งเกิดจากขวัญที่ส่วนท้ายของลำตัว PERUVIAN เป็นหนูสายพันธุ์ขนยาวที่เข้ามาในประเทศไทยเป็นกลุ่มแรกๆ ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่ผู้เลี้ยง
– SILKY มีทิศทางของขนเป็นปกติยาวเหยียดตรงเริ่มจากศรีษะจนถึงท้ายลำตัวเป็นสายพันธุ์ที่ใกล้ชิดกับสายพันธุ์ PERUVIAN
– CORONET ลักษณะโดยทั่วไปเหมือนกับ SHELTIE โดยมีลักษณะพิเศษที่มีขวัญอยู่บริเวณหน้าผากเป็นสายพันธุ์ที่มีผู้เลี้ยงไม่มากนัก
– TEXEL เป็นหนูสายพันธุ์ขนยาวที่มีลักษณะพิเศษตรงที่มีขนหยิกเป็นลอนเมื่อโตเต็มที่จะมีรูปหน้าที่กลมใหญ่
– MARINO เป็นสายพันธุ์ที่ลักษณะคล้ายกับ CORONET และมีขนหยิกเป็นลอน
– ALPACA ลักษณะโดยทั้วไปขนจะหยิกเหมือน TEXEL แต่ขนจะย้อนไปทางด้านศรีษะเหมือนกับ PERUVIAN เป็นสายพันธุ์ที่ยังไม่เป็นที่แพร่หลายมากนัก
สายพันธุ์ขนสั้น
– ENGLISH SHORT HAIR , AMERICAN SHORT HAIR จะมีขนสั้นและเรียบตั้งแต่ปลายจมูกจนถึงท้ายลำตัว มีหลายสี
– TEDDY BEAR ลักษณะเด่นจะอยู่ที่ขนจะสั้น และหยิกทั่วทั้งลำตัว ที่พัฒนาสายพันธุ์ในอเมริกา
– REX เป็นพันธุ์ขนสั้นหยิกที่พัฒนาสายพันธุ์ในยุโรปถ้ามองจากลักษณะภายนอกจะแยกไม่ออกระหว่าง REX กับ TEDDY BEAR เพราะลักษณะภายนอกเหมือนกัน
แต่การพัฒนาลักษณะขนหยิกของทั้งสองสายพันธุ์เกิดจากยีนส์ที่ต่างกัน
– ENGLISH CRESTED ลักษณะคล้ายกับ ENGLISH SHORT HAIR และมีลักษณะพิเศษคือมีขวัญอยูที่บริเวณหน้าผาก
– AMERICAN CRESTED ลักษณะคล้ายกับ ENGLISH CRESTED แต่มีขวัญที่บริเวณหน้าผากเป็นสีขาว หรือบางครั้งมีคนเรียกว่า WHITE CRESTED
– ABYSSINIAN เป็นสายพันธุ์ที่มีขนยาวปานกลาง และมีขวัญกระจายไปทั่วทั้งตัว
แกสบี้ในแต่ละสายพันธุ์ยังสามารถจำแนกตามลักษณะของขนได้ดังนี้
ขนธรรมดา(Regular) ลักษณะของขนเหมือนกับขนสัตว์ทั่วไป
ขนไหม(Satin) ลักษณะของขนอ่อนนุ่มเป็นเส้นเงา แวววาว คล้ายเส้นไหม
อาหารสำเร็จรูป
ที่มีขายอยู่ในท้องตลาดมีทั้งอาหารที่ผลิตในประเทศและต่างประเทศ อาหารที่ผลิตในประเทศจะได้เปรียบในด้านความสดใหม่ มีคุณค่าทางอาหารครบถ้วน ส่วนอาหารนำเข้าถ้าถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีในระบบสุญญากาศก็จะสามารถคงความสดใหม่ได้ดีเช่นกัน ดังนั้นการเลือกใช้อาหารจากต่างประเทศควรพิจารณาถึงบรรจุภัณฑ์ ที่ห่อว่าอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์หรือไม่ และควรซื้อจากร้านที่มีการขายออกสม่ำเสมอ ไม่เก่าเก็บ ส่วนอาหารที่ใช้สำหรับกระต่ายไม่แนะนำให้ใช้เพราะคุณค่าทางอาหารต่ำมีแต่กากอาหาร และที่สำคัญไม่มีวิตามินซีเป็นองค์ประกอบสำคัญที่แกสบี้ต้องการอยู่เลย อาหารสำเร็จรูปเมื่อเปิดใช้แล้วควรเก็บในที่แห้งมิดชิด ควรใช้ให้หมดในระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือน
หญ้าแห้ง
หญ้าแห้งเป็นอาหารประเภทหนึ่งที่มีความจำเป็นสำหรับแกสบี้ เพราะมีเยื่อใยไฟเบอร์ที่จำเป็นสำหรับแกสบี้ในกรณีที่เราหาหญ้าสดไม่ได้ ควรมีหญ้าแห้งให้หนูแกสบี้ไว้ขบเคี้ยวแทนจะทำให้หนูแกสบี้ไม่กัดแทะกินขนกันเอง หญ้าแห้งส่วนใหญ่จะเป็น Hay และหญ้า Alfafa ซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศอาจมีราคาสูงสักหน่อยแต่คุ้มค่ากับการมีไว้เพื่อเป็นอาหารสำหรับแกสบี้ที่เรารักนะค่ะ
วิตามิน ซี
วิตามิน ซี มีความสำคัญต่อสุขภาพของแกสบี้มาก เพราะแกสบี้ไม่สามารถสังเคราะห์วิตามิน ซี ได้ด้วยตัวเอง จึงต้องได้รับวิตามิน ซี จากอาหารที่กินเข้าไป แกสบี้สามารถรับวิตามิน ซี จาก หญ้าสด พืชผักผลไม้ หรือวิตามินสกัด แกสบี้แต่ละตัวต้องการวิตามิน ซี วันละ10 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมและต้องการเพิ่มเป็นสองเท่าเมื่อตั้งท้อง
หญ้าสด
หญ้าสดเป็นอาหารที่จำเป็นสำหรับแกสบี้ เนื่องจากมีเยื่อใยไฟเบอร์ และวิตามินต่างๆ แล้วยังช่วยให้แกสบี้ได้บริหารฟัน ทำให้เฟันของแกสบี้สึกและไม่เกิดปัญหาฟันยาวเกินไปตอนแกสบี้มีอายุมาก หญ้าสดเป็นอาหารที่แกสบี้โปรดปราณ และขาดไม่ได้ทีเดียว ผู้เลี้ยงควรมีหญ้าสดสำหรับแกสบี้ทุกวัน หญ้าสดที่นิยมให้แกสบี้ คือหญ้าขน ควรล้างทำความสะอาดด้วยน้ำและด่างทับทิม แล้วผึ่งให้สะเด็ดน้ำก่อนให้แกสบี้กิน แต่ปัจจุบันหญ้าสดหาได้ยากเราสามารถใช้หญ้าแห้ง เช่นหญ้าแพงโกล่า ทดแทนได้
ผักผลไม้
ผักผลไม้ เป็นแหล่งที่มาของวิตามิน ซี ผักที่นิยมให้เป็นอาหารของแกสบี้ ได้แก่ แครอท ผักกาดหอม แตงกวา แอปเปิล มะม่วง แกสบี้สามารถกินผักผลไม้ได้เกือบทุกชนิด ดังนั้นผู้เลี้ยงสามารถเลือกได้ตามฤดูกาล
อาหารเสริม
อาหารเสริมเป็นอาหารที่ช่วยให้แกสบี้ของเรามีความสุขไม่เบื่ออาหาร ได้แก่ อาหารขบเคี้ยวต่างๆที่ทำสำหรับแกสบี้และสัตว์เล็ก ผู้เลี้ยงควรให้อาหารเสริมสลับกับอาหารที่ให้กินเป็นประจำบ้าง
การดูแลสุขภาพมีขั้นตอนดังนี้
– ให้แกสบี้ของคุณอยู่ในกรงที่แห้งและสะอาดโดยทำความสะอาดและเปลี่ยนที่ปูนอนอย่างสม่ำเสมอ
-ให้แกสบี้อยู่ในที่อากาศเหมาะสมไม่ร้อนจัดเกินไปและอุณหภูมิค่อนข้างคงที่
– ให้แกสบี้อยู่ในที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก ให้อาหารที่สดใหม่พร้อมทั้งน้ำดื่มที่สะอาด
– ให้แกสบี้ได้รับวิตามิน C จากอาหารที่มีวิตามิน C อย่างสม่ำเสมอทุกวัน
– ให้แกสบี้อยู่ในที่มีแสงสว่างบ้างแต่ห้ามนำมาตากแดด
-ตัดเล็บของแกสบี้ไม่ให้ยาวเกินไป
-สังเกตดูสุขภาพของแกสบี้อย่างสม่ำเสมอถ้ามีอาการผิดปกติให้แก้ไขทันที ถ้าคุณเป็นหวัดไม่ควรเข้าใกล้แกสบี้เพราะอาจติดหวัดจากคุณได้
-เลี้ยงแกสบี้ในกรงที่พื้นไม่หยาบขรุขระเพื่อป้องกันอันตรายแก่เท้าของแกสบี้
– เมื่อนำแกสบี้ตัวใหม่เข้ามาเลี้ยงควรแยกกรงจนแน่ใจว่าแกสบี้ตัวใหม่จะไม่นำโรคมาติดแกสบี้ที่มีอยู่เดิม
-หลังจากที่คุณดูแลหรือจับแกสบี้ที่ป่วยควรที่จะล้างมือทำความสะอาดทุกครั้งก่อนที่จะจับแกสบี้ตัวอื่น
เพื่อเป็นการป้องกันให้แกสบี้ของคุณมีสุขภาพดีตลอดไป อาการที่แสดงออกเมื่อแกสบี้ของเราป่วย ในทันทีที่คุณพบอาการเหล่านี้ให้สันนิษฐานว่าแกสบี้ของคุณเริ่มมีอาการป่วยแล้ว ให้รีบรักษาอย่างทันทีเราพบแกสบี้เป็นสัตว์เล็กอาจไม่สามารถทนต่ออาการป่วยได้นานเหมือนสัตว์ใหญ่ๆ
อาการที่พอสังเกตได้มีดังนี้
– ไม่กินอาหารหรือกินอาหารน้อยลงกว่าปกติ
– ไม่ดื่มน้ำยกเว้นให้อาหารเช่นผักที่มีน้ำเป็นองค์ประกอบอยู่แล้ว
– มีน้ำมูกหรือน้ำตาไหล ท้องเสีย
– ขนร่วงมากจนเห็นผิวหนัง ถ้า 10-20 เส้นต่อวันถือว่าปกติ
– น้ำหนักตัวลดลง
– ขนแห้งหยาบกระด้าง
– ตาเป็นฝ้าลืมไม่ขึ้นหรือตาปิด ไม่ร่าเริง หลบอยู่ที่มุมกรงไม่เคลื่อนไหว
จะเห็นได้ว่าการเลี้ยงเจ้าหนูแกสบี้นั้นไม่ยากอย่างที่คิด แต่เมื่อสาวๆ เอามาเลี้ยงแล้วก็ต้องดูแลอย่างดี ไม่ใช่แค่เฉพาะเจ้าหนูแกสบี้เท่านั้นรวมไปถึงสัตว์อื่นๆ ด้วยเราควรจะเลี้ยงมันด้วยความรัก ดูแลเอาใจใส่อย่างดี ไม่ใช่การเลี้ยงเพื่อตามกระแสหรือแก้เหงาพอเบื่อก็ทิ้งขว้าง …..สุดท้ายนี้หากคุณอยากจะมีสัตว์เลี้ยงสักตัวไว้เป็นเพื่อนคู่ใจลองดูนะคะว่าสัตว์ชนิดไหนเหมาะสมกับคุณและคุณรักมากที่สุด
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก guineapigworld.com , photos.com
Credit : http://women.sanook.com/
