วิศวกรตีลูกเลี้ยง ลูกเลี้ยงสุดทนส่งภาพประจานทางโซเซียลเน็ตเวิร์ค
วิศวกรโรงกลั่นน้ำมันชื่อดังคว้าไม้เรียวกระหน่ำตีลูกเลี้ยง จนหลังลายเป็นผื่นแดง ลูกเลี้ยงวัย 16 ปีสุดทนให้เพื่อนถ่ายรูปบาดแผลประจานทางเฟซบุ๊คจนเป็นข่าวดังในโซเซียลเน็ตเวิร์ค พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดระยอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองระยองวิ่งโร่เข้าช่วยเหลือเด็กเพื่อเอาผิดวิศวกรพ่อเลี้ยงสุดโหด เกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าวเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 กันยายน 2556 ที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งกลางเมืองระยอง นายสรวิชญ์ ทองคำ หัวหน้างานฝ่ายกิจการปกครองของโรงเรียน พร้อมด้วยนางสาวสาทิพย์ ภูธนะกุล นักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดระยอง พ.ต.ต.วิรัช เตชะนันท์ สว.สส.สภ.เมืองระยอง ได้ตรวจสอบร่างกายนายแม็ก (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ลงภาพบาดแผลจากการถูกเฆี่ยนตีจนเป็นปื้นแดงเผยแพร่ทางเฟซบุ๊ค จึงได้สอบถามเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ด้านนายแม็ก ได้กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา ตนได้เล่นฟุตบอลแล้วลืมแว่นสายตาไว้ที่สนามฟุตบอลของโรงเรียน เมื่อกลับถึงบ้านถูกนายพล (นามสมมุติ) พ่อเลี้ยงเป็นพนักงานโรงกลั่นน้ำมันแห่งหนึ่งในมาบตาพุดตำแหน่งวิศวกร ได้ใช้ไม้เรียวกระหน่ำเฆี่ยนตีจนไม้หักเนื่องจากลืมแว่นสายตาและทำหาย จากนั้นได้นำบาดแผลมาโชว์ให้เพื่อนที่ห้องดู เพื่อนได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพบาดแผลไว้ ตนเองจึงได้นำภาพและรูปพ่อเลี้ยงไปลงเฟซบุ๊คเพื่อประจานพฤติกรรมของพ่อเลี้ยงที่เฆี่ยนตี ซึ่งก่อนหน้านั้นยังเคยเฆี่ยนตีบ่อยครั้งทั้งเรื่องลืมสิ่งของต่างๆ รวมถึงผลการเรียนที่ติด ร ด้วย แต่ไม่กล้านำเรื่องนี้ไปปรึกษาครูประจำชั้น ส่วนแม่เป็นครูสอนเด็กนักเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในตัวเมืองระยอง ก็เคยเฆี่ยนตีเช่นกัน แต่ในครั้งนี้ถูกพ่อเลี้ยงเฆี่ยนตีหนักรับสภาพไม่ได้ และไม่รู้จะปรึกษาใครจึงได้นำภาพมาลงเฟซบุ๊คไว้เท่านั้น และไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่
นายสรวิชญ์ ทองคำ หัวหน้างานฝ่ายกิจการปกครองของโรงเรียน กล่าวว่า น้องแม็ก ซึ่งเรียนอยู่ชั้น ม.4 มีการพัฒนาทางด้านสมองช้ากว่าเพื่อนคนอื่น และขี้หลงขี้ลืมอยู่ประจำ ทางโรงเรียนเข้าใจในพฤติกรรมของน้องแม็กมาโดยตลอด แต่ที่ผู้ปกครองนั้นเฆี่ยนตีคาดว่าน่าจะเป็นที่น้องแม็กนั้นลืมแว่นสายตาหลังจากเล่นกีฬาเสร็จ จึงทำให้ผู้ปกครองนั้นเฆี่ยนตี ถือว่าผู้ปกครองได้สั่งสอนเด็กซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาในการอบรมสั่งสอนบุตรหลานและผู้ปกครองอยากให้เด็กนั้นมีความแข็งแกร่งและจดจำในเรื่องที่ทำผิดพลาดไป และไม่คิดว่าน้องแม็กจะนำภาพบาดแผลจากรอยเฆี่ยนตีมาลงเฟซบุ๊คจนเป็นข่าวในขณะนี้ ซึ่งทางโรงเรียนจะได้กวดขันและได้อบรมเด็กนักเรียนในเรื่องของโซเซียลเน็ตเวิร์คซึ่งอาจทำให้ทางโรงเรียนนั้นเสียชื่อเสียงได้
นางสาวสาทิพย์ ภูธนะกุล นักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดระยอง ได้รับคำสั่งจากนายปรีชา จิตรบรรจง ผู้อำนวยการระดับสูงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดระยอง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้เข้ามาติดตามเรื่องนี้ จากการติดตามและสอบถามเด็กสาเหตุที่ถูกเฆี่ยนตีเนื่องจากเด็กลืมแว่นสายตาหลังจากเล่นกีฬาเสร็จจึงถูกผู้ปกครองทำโทษเฆี่ยนตี ซึ่งทางพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดระยองจะเข้าสอบถามผู้ปกครองของเด็กถึงสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง เพราะต้องคุยกันหลายฝ่ายเพื่อไม่อยากให้เด็กนั้นถูกทอดทิ้งหรือถูกผู้ปกครองกระทำรุนแรงต่อเด็กอีก ซึ่งทราบว่าเด็กนั้นมีการพัฒนาทางด้านความคิดช้ากว่าเพื่อนคนอื่น อาจจะทำให้เด็กนั้นเกิดอาการคิดมากหรืออาจทำอะไรโดยไม่รู้เท่าทัน อยากให้สังคมเข้าใจในเรื่องปัญหาครอบครัวและผลที่จะตอบรับสู่ตัวน้องเองด้วย
พ.ต.ต.วิรัช เตชะนันท์ สว.สส.สภ.เมืองระยอง กล่าวว่าจากการตรวจสอบบาดแผลนั้นเข้าข่าย พรบ.ความรุนแรงในครอบครัว ต้องให้หน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดระยอง เป็นผู้ดำเนินการต้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน แต่อย่างไรก็ตามปัญหาเรื่องครอบครัวต้องหันหน้าคุยกันและจบลงได้เพราะความเข้าใจ ไม่อยากให้เกิดคดีเพราะอาจจะมีปัญหาต่อเด็กและครอบครัวได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนแต่จากบาดแผลถือว่าผู้ปกครองนั้นกระทำรุนแรงต่อเด็กมากเกินไป ซึ่งอยากให้หน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดระยอง เข้าคลี่คลายหรือสร้างความเข้าใจให้แก่เด็ก ครอบครัว และสังคมภายนอกให้รับทราบด้วย เพราะขณะนี้ภาพได้ถูกเผยแพร่เป็นที่สนใจในโซเซียลเน็ตเวิร์ค มีความรุนแรงมาก และไม่อยากให้ผู้ปกครองกล่าวหาหรือทำโทษเด็กอีกว่าเป็นความผิดพลาดของเด็กที่นำภาพมาลงในโซเซียลเน็ตเวิร์ค ต้องสร้างความเข้าใจแก่เด็กเพื่อให้เด็กนั้นได้อยู่กับครอบครัวอย่างเป็นสุข
นายมาโนช สนองสุข ระยอง 081-6537797