ททท. สำนักงานระยองเผยปี 63 ชูผลไม้และอาหารทะเลควบคู่กับการตอกย้ำภาพลักษณ์ “Green” และการเป็นจุดหมายปลายทาง “CSR” ของภาคตะวันออกและตั้งเป้ารายได้เพิ่มขึ้น +8.52% หรือประมาณ 4 หมื่นล้านบาท
***************************************************
วันนี้ (24 กันยายน 2562) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานระยอง เผยแผนปี 63 วางแนวทางการดำเนินงานด้านตลาดและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของระยอง ยังชูผลไม้และอาหารทะเลควบคู่กับการนำเสนอสินค้าและบริการเส้นทางท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ “Green” และการเป็นจุดหมายปลายทาง “CSR” ของภาคตะวันออกให้เป็นรูปธรรม และตั้งเป้ารายได้เพิ่มขึ้น +8.52% หรือประมาณ 4 หมื่นล้านบาท
โดยมีนายวิบูลย์ นิมิตรวานิช ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก ททท. เป็นประธานการแถลงทิศทางฯ ในครั้งนี้
นายอุทิศ ลิ่มสกุล ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานระยอง กล่าวว่า จากข้อมูลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่าตัวเลขของจังหวัดระยองเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2562 มีการเติบโตของปริมาณผู้เยี่ยมเยือน +2.31% หรือ 4,718,420 คน/ครั้ง อยู่ในลำดับที่ 9 และรายได้จากการท่องเที่ยว +5.59% หรือ 19,496 ล้านบาทอยู่ในลำดับที่ 10 ของประเทศ ซึ่งเป็นอัตราเติบโตที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก
ปี 2563 ททท. จัดทำทิศทางการส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยว ได้กำหนดการสื่อสารการตลาดภายในประเทศ คือ amazing ไทยเท่ ภายใต้ Working Concept “เมืองไทยสวยทุกที่เท่ทุกสไตล์” กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวคนไทย
มีความสนุก ความสุข และความภูมิใจในการออกแบบการท่องเที่ยวของตัวเอง และต้องการบอกต่อประสบการณ์ท่องเที่ยวของตนให้กับผู้อื่น เพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการออกแบบการท่องเที่ยวในสไตล์ของตนเองต่อไป
และภูมิภาคตะวันออกภายใต้คอนเซ็ปต์ More fun หยิบสินค้าและบริการท่องเที่ยวที่ให้ความรู้สึกสนุกกว่า มีความสุขกว่า เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่
สำหรับสินค้าทางการท่องเที่ยวของระยองที่จะเสนอขายนอกจากเกาะเสม็ด หาดแหลมแม่พิมพ์ หาดแม่รำพึง ถนนยมจินดา และทุ่งโปรงทอง ที่นับว่าเป็นสินค้าคลาสสิคทางการท่องเที่ยวของจังหวัดแล้ว ยังได้นำสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับการ “กิน” ซึ่งเป็นจุดแข็งของพื้นที่ ที่สะท้อนจากนักท่องเที่ยว รวมถึงแคมเปญที่ประสบความสำเร็จในปีนี้ มาเป็นแนวทางหลักในการทำการตลาด ออกแบบสินค้าทางการท่องเที่ยวที่ช่วยเพิ่มการใช้จ่ายหรือกิจกรรมที่ดึงให้นักท่องเที่ยวใช้เวลาท่องเที่ยวมากขึ้น โดยจะเพิ่มความเข้มข้นในการทำตลาดในช่วง High ให้ยิ่ง High ผ่านแคมเปญ “กินทุเรียนก่อนใครไประยอง” เสนอแพคเก็จห้องพักควบคู่กับสวนทุเรียนในช่วงฤดูการท่องเที่ยวผลไม้ เดือนเมษายน-กรกฎาคม
และในช่วง…
และในช่วงหน้าฝน (Green Season) ชูซีฟู้ดสด ๆ ประมงพื้นบ้าน กระตุ้นนักท่องเที่ยวสายกินผ่านแคมเปญ
“ระยองสดพร้อมเสริฟ / Rayong’s sea to table” นำเสนอแพคเก็จที่พักพร้อมคูปองส่วนลดอาหารทะเลในเดือนสิงหาคม นอกจากนี้ยังร่วมกับพันธมิตรภาครัฐและภาคเอกชนส่งเสริมการท่องเที่ยวให้พื้นที่กับกิจกรรม Food Event Marketing เช่น เทศกาลอาหารอร่อยระยองฮิ, Rayong Crab Carnival และ Exotic Street Food เป็นต้น เพื่อให้เกิดการขายและสร้างสีสันการท่องเที่ยวให้มีอย่างต่อเนื่องด้วย ส่วนสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวเชิงกีฬาซึ่งส่วนใหญ่ได้พัฒนา และมีศักยภาพเช่น Rayong Together Run, Rayong Marathon และกีฬาที่เกิดขึ้นใหม่ในพื้นที่
อาทิ Surfing และ Sky Diving จะสร้างการรับรู้และเพิ่มความแรงในการส่งเสริมการขายรวมถึงแพคเกจกอล์ฟ
ในวันธรรมดาอีกด้วย
สำหรับทิศทางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวระยองเข้าสู่การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Responsible Tourism) โดยจะเดินหน้านำเสนอสินค้าและบริการเส้นทางท่องเที่ยวชูภาพลักษณ์ “Green” และการเป็นจุดหมายปลายทาง “CSR” เช่น เส้นทางท่องเที่ยวตามรอยศาสตร์พระราชา อ่างเก็บน้ำดอกกราย เรือนจำชั่วคราวเขาไม้แก้ว ชุมชนท่องเที่ยวบ้านทะเลน้อย ศูนย์การเรียนรู้ป่าวังจันทร์ ชุมชนท่องเที่ยวลุ่มน้ำประแสทั้งชุมชนปากน้ำประแส
ชุมชนบ้านวังหว้า และหมู่บ้านกระแสบน รวมถึงกิจกรรมแต่งงานปู-ปล่อยปูที่บ้านเนินฆ้อเชื่อมโยงบ้านจำรุงและสวนสละคุณพิชัย เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม Upcycling the Ocean ที่ ททท. ร่วมกับ PTT GC จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 – 21 ธันวาคมนี้ เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็นจุดหมายปลายทาง “Green” และ “CSR” ของภูมิภาคตะวันออก
ทั้งนี้ ได้กำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่สำคัญของพื้นที่ระยอง ยังคงเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยว Gen Y และ
กลุ่ม Muti-Gen นอกจากนี้จะเน้นให้ความสำคัญกับกลุ่ม Corporate หรือกลุ่มที่เดินทางท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล ศึกษาดูงาน และ Outing เพิ่มขึ้น ซึ่งนับเป็นอีกกลุ่มคุณภาพที่มีกำลังซื้อสูงและให้ความสำคัญต่อการคัดเลือกและ
สรรหาสินค้าและบริการที่แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัพยากรธรรมขาติ และวิถีชีวิตท้องถิ่น ดังนั้นกิจกรรมรวมถึงแคมเปญต่าง ๆ ข้างต้นทั้งหมดจะเริ่มสร้างการรับรู้เพิ่มความแรงกระตุ้นการท่องเที่ยวควบคู่กับการเสนอขายตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 – มีนาคม ปีหน้า โดยทำ Road Show ในพื้นที่เป้าหมายเช่น นครราชสีมา อุดรธานี เชียงราย นครสวรรค์ เข้าร่วมงาน Consumer Fair ที่ไบเทค บางนา นอกจากนี้จะนำ Celebrity มาสร้างกระแสท่องเที่ยวโปรโมตผ่านบล็อกเกอร์ กับตัวแทนผู้มีชื่อเสียง สื่อมวลชน ผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ ออฟไลน์ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้ระยองและดันรายได้เพิ่มขึ้น +8.52%
หรือประมาณ 4 หมื่นล้านบาทตามเป้าหมายต่อไป