ในยุควัตถุนิยม ครอบครัวประวงศ์สินธุ์ สร้างภูมิคุ้มกันให้กับลูก ๆ ด้วยวิธีรักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี
นายอิทธิศักดิ์ ประวงศ์สินธุ์ พนักงานบริษัทเอกชน และนางกัลยาภัสร์ ประวงศ์สินธุ์ ตัวแทนจำหน่ายประกันชีวิตแห่งหนึ่ง อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านเพลินใจ 2 ใช้พื้นที่หน้าบ้านเป็นร้านขายบะหมี่ โดยมีลูกสาวคนกลางและคนเล็ก ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการช่วยกันทำมาหากินตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา
นายอิทธิศักดิ์ กล่าวว่า ตนทำงานบริษัทฯ เอกชน ถึงแม้จะมีเงินเดือนประจำ แต่ด้วยค่าครองชีพที่สูงขึ้นตามลำดับ ตนและภรรยาจึงเริ่มหารายได้เสริมให้กับครอบครัว ตัดสินใจเปิดร้านขายบะหมี่ตั้งแต่ปี 2546 ซึ่งตอนนั้น ลูกสาวคนโตอายุประมาณ 13 ขวบ และคนกลาง อายุ 10 ขวบ ช่วยกันตั้งแต่จัดร้าน เตรียมวัตถุดิบ เช่น หั่นหมู หั่นผัก ทำน้ำซุป ห่อเกี๊ยว เป็นต้น ให้เบี้ยเลี้ยงวันละ 50 บาท เห็นว่ามีความชำนาญแล้วจึงให้วันละ 100 บาท จนกระทั่ง ทุกวันนี้ลูกทุกคนสามารถดูแลให้เป็นกิจการของตนได้แล้ว คือ สามารถลงทุนเอง และเก็บผลกำไรเองได้ เงินส่วนใหญ่ก็จะเป็นค่าใช้จ่ายเรื่องค่าเทอม ค่าเรียนพิเศษ ค่าชุดนักเรียนและค่าใช้จ่ายส่วนตัว ซึ่งก็ช่วยลดภาระของผู้เป็นพ่อและแม่ได้
นายอิทธิศักดิ์ กล่าวอีกว่า ภูมิใจที่ลูก ๆ ทุกคนเข้าใจในสิ่งที่พ่อแม่หยิบยื่นให้ บางครั้งบางขณะที่ลูกทำผิดก่อนที่จะต้องมีการลงโทษ เราจะบอกลูกทุกครั้งว่าที่ทำไปทั้งหมดเพราะอะไร และทำเพื่อใคร ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องคุยกันด้วยเหตุผลและไม่ใช้อารมณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่มีวัตถุนิยมคอยสร้างกระแสความอยากมีอยากได้อยากเป็นเช่นนี้ ตนและภรรยาเข้าใจดีว่าหากรักลูกและไม่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่สอนวิธีการคิด วิธีการลงมือทำ สุดท้ายเมื่อเด็กเติบโตขึ้นก็จะใช้ชีวิตอยู่อย่างลำบากทั้งกายและใจได้ในอนาคต
อุไรรัตน์ ฤทธิ์ฤาไชย ข่าว
วรานนท์ ฤทธิ์ฤาไชย ภาพ